ทรู คอร์ปอเรชั่น ประกาศความพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการยกระดับความปลอดภัยการใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง โดยกำหนดให้ชื่อผู้ใช้งานต้องตรงกับชื่อเจ้าของซิมการ์ด เพื่อป้องกันการทุจริตและสกัดกั้นบัญชีม้าที่มิจฉาชีพใช้เป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรมทางการเงิน
ท่ามกลางสถานการณ์การหลอกลวงทางการเงินที่ทวีความรุนแรงขึ้น หน่วยงานภาครัฐนำโดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ร่วมมือกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย และ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในการกำหนดมาตรการใหม่เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้ง
นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า แม้การให้บริการโมบายแบงก์กิ้งจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างธนาคารกับลูกค้าโดยตรง แต่ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ทรู พร้อมสนับสนุนมาตรการดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมยกระดับความปลอดภัยทางการเงินและป้องกันการใช้ซิมผีหรือบัญชีม้าในการก่ออาชญากรรม
มาตรการใหม่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 โดยในช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน 2568 ธนาคารจะทยอยส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังลูกค้าที่มีชื่อผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้งไม่ตรงกับชื่อเจ้าของซิมการ์ด เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง หากลูกค้าไม่ได้รับการแจ้งเตือน แสดงว่าข้อมูลถูกต้องตรงกันแล้ว สามารถใช้บริการได้ตามปกติ
สำหรับลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้จดทะเบียนซิมการ์ดให้ตรงกับชื่อบัญชีธนาคาร สามารถดำเนินการได้ที่ ทรูช้อป หรือ ศูนย์บริการดีแทค ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยผู้จดทะเบียนเดิมและผู้จดทะเบียนใหม่ต้องนำบัตรประชาชนตัวจริงมาแสดงในการทำรายการ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการยังสามารถทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้งได้ตามปกติจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2568
มาตรการนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการยกระดับความปลอดภัยทางการเงินดิจิทัล ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงและการฉ้อโกงทางการเงินที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน โดยผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ คอลเซ็นเตอร์ ทรู โทร 1242 หรือ ดีแทค โทร 1678 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง