ท่ามกลางสงครามสมาร์ทโฟนที่แข่งขันกันด้วยสเปคระดับเทพและราคาหลักหมื่น วันนี้เรามาพบกับมุมมองที่แตกต่างจาก ZTE ที่เลือกจะเจาะตลาดผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนคุณภาพดีในราคาเอื้อมถึง
มาดูกันว่าทำไม Blade A35e ถึงน่าสนใจในราคาเพียง 1,999 บาทนเลย! เริ่มจากในกล่องกันก่อน ภายในมีอุปกรณ์ครบครัน ทั้งตัวเครื่อง ที่ชาร์จ สาย USB คู่มือการใช้งาน และฟิล์มกันรอยที่ติดมาให้ในกล่องเลย
ประสบการณ์แรกสัมผัส – เกินคาดกว่าที่คิด! ดีไซน์สวยเกินราคา
สำหรับในบทความนี้ผมได้ ZTE Blade A35e สี Ice Green มารีวิวแกะกล่องกัน ต้องบอกว่าสีสวยมาก เป็นสีเขียวอ่อนๆ ดูสบายตา ทันสมัย (มีอีกสีคือ Silver Gray สำหรับคนชอบแนวคลาสสิก)
ตอนแกะกล่องมาแล้วทึ่งมาก เพราะดีไซน์และวัสดุดูดีเกินราคา ไม่มีกลิ่นอายความเป็นมือถือราคาประหยัดเลย ตัวเครื่องประกอบได้แน่นหนา จับถนัดมือ น้ำหนักกำลังดี
ZTE Blade A35e มาพร้อมการออกแบบที่เหนือความคาดหมายสำหรับสมาร์ทโฟนในระดับราคานี้ ตัวเครื่องถูกแต่งแต้มด้วยสองเฉดสีที่ดูทันสมัย – Ice Green สีเขียวอ่อนสุดชิค และ Silver Gray สีเทาเงินดูมีระดับ ด้วยการเคลือบผิวแบบด้านพิเศษ (Matte Finish) ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังช่วยปกป้องตัวเครื่องจากรอยนิ้วมือและรอยเปื้อนได้อย่างดีเยี่ยม
ที่น่าประทับใจไม่แพ้กันคือการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ บนตัวเครื่อง โดยเฉพาะโมดูลกล้องด้านหลังที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน
เลนส์กล้อง 8MP พร้อมแฟลช LED ถูกจัดวางในกรอบวงแหวนสวยงาม ตั้งอยู่บนแผงสี่เหลี่ยมโค้งมนสีดำขนาดพอดี ไม่เทอะทะ ดูเป็นระเบียบและมีเอกลักษณ์
ด้านการจับถือใช้งาน ZTE ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตัวเครื่องมีขอบเหลี่ยมแบบ Flat Edge Design ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ความหนาเพียง 8.5 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 187 กรัม ทำให้จับถนัดมือ
ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายแม้จะใช้งานด้วยมือเดียว ขอบจอบางเฉียบช่วยให้หน้าจอดูกว้างขวางกว่าที่เป็น
การจัดวางปุ่มควบคุมก็ถูกคำนวณอย่างลงตัว ทั้งปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ในตำแหน่งที่นิ้วเอื้อมถึงได้ง่าย
ส่วนช่องเสียบต่างๆ ทั้งพอร์ต USB-C ทันสมัย ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และช่องใส่ซิมแบบ Triple Slot ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบที่ส่วนของด้านล่างตัวเครื่อง
หน้าจอใหญ่จุใจ คมชัดสะใจ
ZTE Blade A35e มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+ พร้อมดีไซน์ทันสมัยแบบ Water Drop ให้พื้นที่การใช้งานเต็มตา การดูคอนเทนต์ต่างๆ ทำได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการดู YouTube ภาพคมชัด สีสันสดใส ไม่มีอาการกระตุก เล่น TikTok ก็ลื่นไหล สลับวิดีโอได้รวดเร็ว
แม้แต่การอ่านข่าวหรือท่องเว็บ ตัวหนังสือก็คมชัด อ่านง่าย ไม่ล้าตา เล่นเกมเบาๆ ก็ทำได้ดีเกินคาด ไม่มีอาการค้าง
ประสิทธิภาพที่เกินคุ้ม
ขุมพลังภายในมาพร้อมชิป Octa-Core ความเร็ว 1.6 GHz จับคู่กับ RAM 4GB และที่เจ๋งคือสามารถขยายเพิ่มได้อีก 2GB ด้วยเทคโนโลยี RAM Extension รวมเป็น 6GB ลองทดสอบเปิดแอพพร้อมกันหลายๆ ตัว สลับไปมา ทำได้ลื่นไหลดีมาก ไม่มีอาการกระตุกให้เห็น แม้แต่แอพที่ต้องการความปลอดภัยสูงอย่างแอพธนาคาร เป๋าตัง หรือแอพภาครัฐ ก็รองรับครบ ใช้งานได้ปกติ
กล้องถ่ายภาพ เก็บทุกความทรงจำในราคาประหยัด
แม้ ZTE Blade A35e จะมาในราคาเบาๆ แต่ระบบกล้องก็ไม่ได้น้อยหน้า มาพร้อมกล้องหลัก 8MP พร้อมแฟลช LED ที่ซ่อนอยู่ในโมดูลทรงวงกลมสวยงาม ถูกจัดวางอย่างลงตัวบนแผงสี่เหลี่ยมสีดำด้านหลัง ส่วนกล้องหน้า 5MP ถูกซ่อนอยู่ในรอยบากทรงหยดน้ำอย่างกลมกลืน
ในสภาพแสงกลางวัน กล้องหลัก 8MP สามารถเก็บภาพได้ค่อนข้างดี สีสันสมจริง รายละเอียดพอใช้ได้ โดยเฉพาะการถ่ายภาพทิวทัศน์หรือภาพระยะไกล ระบบออโต้โฟกัสทำงานได้รวดเร็ว จับโฟกัสแม่นยำ แม้จะถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหว การถ่ายภาพกลางวันจึงไม่ใช่ปัญหา
กล้องหน้า 5MP อาจดูไม่โดดเด่นในด้านตัวเลข แต่มาพร้อมฟีเจอร์ปรับแต่งภาพอัตโนมัติที่ช่วยให้ภาพเซลฟี่ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพเดี่ยว ภาพกลุ่ม หรือวิดีโอคอล ระบบ AI อัจฉริยะจะช่วยปรับแต่งภาพให้อัตโนมัติตามสภาพแสงและฉากที่ถ่าย
แม้จะไม่ได้โดดเด่นด้านกล้องเหมือนสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ แต่ ZTE Blade A35e ก็มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่เกินคุ้มในระดับราคานี้ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในชีวิตประจำวัน เก็บภาพความทรงจำกับครอบครัวและเพื่อนฝูง หรือถ่ายภาพสำหรับโพสต์ลงโซเชียลมีเดียทั่วไป ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้
แบตเตอรี่อึดสุดๆ
แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ถือว่าจุใจมาก ลองทดสอบใช้งานแบบหนักๆ ทั้งเล่นโซเชียลมีเดียต่อเนื่อง ดูวิดีโอสตรีมมิ่ง ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ และแชทตลอดทั้งวัน ผลลัพธ์คือใช้งานได้ยาวนานเกือบ 2 วันสบายๆ แถมมีระบบชาร์จเร็วที่ช่วยประหยัดเวลาชาร์จได้ดี
ฟีเจอร์พิเศษที่น่าสนใจ
ระบบรักษาความปลอดภัยมาครบทั้งการปลดล็อคด้วยใบหน้าและลายนิ้วมือ การเชื่อมต่อรองรับทั้ง 4G, Wi-Fi และ Bluetooth 5.0 ระบบเสียงให้ลำโพงเสียงดังชัดเจน และที่สำคัญคือหน้าจอผู้ใช้งานที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้ทุกวัย
บริการหลังการขายที่อุ่นใจ
จุดเด่นที่ต้องชื่นชมคือการรับประกันยาวนานถึง 18 เดือน พร้อมบริการหลังการขายแบบถึงบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศผ่านเครือข่าย VST ECS ทำให้ผู้ใช้งานอุ่นใจได้เต็มที่
สรุป…คุ้มค่าเกินราคา!
ZTE Blade A35e อาจไม่ใช่มือถือที่สเปคแรงที่สุด แต่เป็นสมาร์ทโฟนที่ให้ความคุ้มค่าเกินราคาอย่างแท้จริง ด้วยการรับประกันยาวนาน 18 เดือน และบริการหลังการขายถึงบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องแรก หรือต้องการมือถือสำรองในราคาประหยัด
สุดท้ายนี้ ต้องบอกว่าประทับใจมากๆ กับ ZTE Blade A35e คุ้มค่าเกินราคาจริงๆ ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนในงบไม่เกิน 2,000 บาท แนะนำเลยค่ะ! รับรองว่าไม่ผิดหวัง
สำหรับใครที่สนใจ สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่าย VST ECS กว่า 5,500 ร้านค้าทั่วประเทศ และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ร่วมรายการ ในราคาเพียง 1,999 บาท คุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแท้จริง!
ติดตามรีวิวสนุกๆ แบบนี้ได้ในรีวิวหน้านะคะ บ๊ายบาย!
