Dynamic Island บนหน้าจอ iPhone 17 Pro Max รุ่นใหม่อาจมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยีเลนส์แบบใหม่สำหรับระบบ Face ID ตามรายงานจากนักวิเคราะห์ชื่อดัง พร้อมเปิดศักราชใหม่ของนวัตกรรมการสแกนใบหน้าบนสมาร์ตโฟน
ข้อมูลจากนักวิเคราะห์บนแพลตฟอร์ม Weibo ที่รู้จักกันในนาม Digital Chat Station เผยว่า Apple กำลังพัฒนาเทคโนโลยี “metalens” สำหรับระบบสแกนใบหน้า Face ID บน iPhone 17 Pro Max รุ่นท็อป โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะรวมส่วนประกอบของตัวส่งและตัวรับสัญญาณเข้าด้วยกัน ส่งผลให้โครงสร้างของ Dynamic Island มีขนาดบางและเล็กลง ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของดีไซน์หน้าจอ iPhone นับตั้งแต่การเปิดตัว Dynamic Island ในปี 2022
การพัฒนาเทคโนโลยี metalens ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญในวงการอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่แตกต่างจากเลนส์กล้องแบบดั้งเดิมที่ใช้เลนส์นูนในการหักเหแสงไปยังเซ็นเซอร์รับภาพ โดย metalens เป็นเลนส์แบนบางพิเศษที่มีโครงสร้างนาโนขนาดจิ๋ว ทำหน้าที่ควบคุมและโฟกัสแสงได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบ Face ID ดีขึ้น พร้อมทั้งช่วยลดพื้นที่การติดตั้งบนหน้าจอ
Apple ยังมีแผนที่จะขยายการใช้งานเทคโนโลยี metalens ไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอนาคต โดยเฉพาะ iPad Pro รุ่นถัดไป และ iPad รุ่นจอพับได้ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทในการผลักดันนวัตกรรมด้านการออกแบบและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม รายงานนี้ได้สร้างความขัดแย้งในวงการนักวิเคราะห์เทคโนโลยี โดย มิง-ชี กัว นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Apple ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้ระบุในรายงานเมื่อเดือนมกราคมว่า iPhone 17 จะยังคงใช้ Dynamic Island ขนาดเดิม แต่ในทางกลับกัน เจฟฟ์ พู นักวิเคราะห์จาก Haitong International Securities ได้ทำนายตั้งแต่ปีที่แล้วว่า iPhone 17 Pro Max จะใช้ metalens สำหรับ Face ID ซึ่งจะทำให้ Dynamic Island มีขนาดแคบลงอย่างเห็นได้ชัด โดย พู ยังคงยืนยันการคาดการณ์นี้หลายครั้งในปี 2024
ความน่าเชื่อถือของข้อมูลจาก Digital Chat Station นั้นมีน้ำหนักพอสมควร เนื่องจากเคยมีประวัติการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Apple หลายครั้ง อาทิ การทำนายเกี่ยวกับ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ 48 ล้านพิกเซลขนาดเล็กกว่า iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max รวมถึงการเปิดเผยดีไซน์หน้าจอของ iPhone 12 ได้อย่างแม่นยำในปี 2020
นับตั้งแต่ Apple เปิดตัว Dynamic Island ครั้งแรกบน iPhone 14 Pro ในปี 2022 นวัตกรรมนี้ได้กลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญของ iPhone รุ่นใหม่ และได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาถึง iPhone 15 และ iPhone 16 ทุกรุ่น แม้ว่าขนาดจะยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงในรุ่นต่อๆ มา แต่การนำเทคโนโลยี metalens มาใช้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการออกแบบหน้าจอสมาร์ตโฟนในอนาคต
ด้านผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีให้ความเห็นว่า การพัฒนา metalens นอกจากจะช่วยลดขนาดของ Dynamic Island แล้ว ยังอาจส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบ Face ID ให้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น รวมถึงอาจช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้นด้วย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาสมาร์ตโฟนยุคใหม่
คาดว่า iPhone 17 series จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ พร้อมกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ อีกมากมาย ซึ่งจะตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสมาร์ตโฟนของ Apple ได้อย่างน่าสนใจ
อ้างอิง | Macrumors.com
