
Apple ตัดสินใจร่วมมือกับ Alibaba เพื่อนำเสนอฟีเจอร์ AI ในประเทศจีน หลังจากมีการคาดการณ์เกี่ยวกับกลยุทธ์ของบริษัทในภูมิภาคนี้มาหลายเดือน
โจ ไช่ (Joe Tsai) ประธานบริษัท Alibaba เปิดเผยในงาน World Government Summit ที่เมืองดูไบว่า “Apple ได้เจรจากับหลายบริษัทในจีน และในที่สุดก็เลือกที่จะร่วมธุรกิจกับเรา พวกเขาต้องการใช้ AI ของเราเพื่อขับเคลื่อนสมาร์ตโฟนของพวกเขา เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมธุรกิจกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple“
หุ้นของ Alibaba พุ่งสูงขึ้นถึง 8.6% หลังจาก The Information รายงานว่า Apple กำลังร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซรายนี้เพื่อเปิดตัวฟีเจอร์ AI ในจีน เนื่องจากกฎระเบียบของจีนกำหนดให้บริษัทต่างชาติต้องร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นก่อนที่จะสามารถเปิดให้บริการฟีเจอร์ AI อย่างเต็มรูปแบบได้
ปัจจุบัน อุปกรณ์ Apple นอกประเทศจีนใช้การผสมผสานระหว่าง Apple Intelligence ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของบริษัท และ ChatGPT จาก OpenAI เพื่อให้บริการฟีเจอร์ AI ทั้งนี้ The Information รายงานว่าทั้ง Alibaba และ Apple ได้ยื่นเอกสารต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุมัติแล้ว
การพัฒนาครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า Apple “ปฏิเสธ” ที่จะร่วมงานกับ DeepSeek บริษัท AI สัญชาติจีนที่เพิ่งสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการพัฒนา AI ที่มีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญ รายงานวันนี้ระบุว่า Apple เคยพิจารณา Baidu เป็นพันธมิตรหลักด้าน AI เมื่อปีที่แล้ว แต่โมเดล AI ของบริษัทไม่ตรงตามข้อกำหนดของ Apple
ความร่วมมือด้าน AI นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญสำหรับ Apple หลังจากประสบความท้าทายในตลาดจีนในปี 2024 โดยสูญเสียตำแหน่งผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนในประเทศ ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาด Canalys ระบุว่ายอดจัดส่งรายปีของ Apple ในจีนลดลง 17% ทำให้ Vivo ผู้ผลิตในประเทศก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดแทน
อ้างอิง | Macrumors.com