News

iPhone SE 4 เผยโฉมแล้ว! อัปเกรดสเปคจัดเต็ม พร้อมดีไซน์ใหม่จาก iPhone 14

วงการสมาร์ตโฟนเริ่มคึกคักขึ้นอีกครั้ง เมื่อ ทิม คุก ซีอีโอ แอปเปิล ได้ทวีตข้อความทิ้งท้ายชวนติดตามว่า “เตรียมพบกับสมาชิกใหม่ในครอบครัว” ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้

โดยข้อมูลที่รั่วไหลออกมาชี้ชัดว่าจะเป็นการเปิดตัว iPhone SE รุ่นที่ 4 สมาร์ตโฟนรุ่นประหยัดที่ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่

ปรับโฉมใหม่ทั้งหมด ลาก่อนดีไซน์เก่า

หลังจากที่ iPhone SE ยังคงใช้ดีไซน์แบบมีปุ่มโฮมมาตลอดหลายรุ่น ในที่สุด แอปเปิล ก็ตัดสินใจปรับโฉมครั้งใหญ่ โดยนำดีไซน์จาก iPhone 14 มาใช้ พร้อมเพิ่มขนาดหน้าจอจาก 4.7 นิ้ว เป็น 6.1 นิ้ว แม้จอจะใหญ่ขึ้น แต่ตัวเครื่องมีขนาดไม่ต่างจากเดิมมากนัก เนื่องจากการกำจัดขอบจอหนาออกไป โดยมีขนาด 5.78 x 2.82 x 0.78 เซนติเมตร และน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย

สู่ยุคใหม่ของการยืนยันตัวตน

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกประการคือการยกเลิกระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID และปุ่มโฮม เปลี่ยนมาใช้ระบบสแกนใบหน้า Face ID ที่มีความปลอดภัยสูงกว่ามาก โดยมีโอกาสที่คนแปลกหน้าจะปลดล็อกได้เพียง 1 ต่อ 1,000,000 เทียบกับ Touch ID ที่มีโอกาส 1 ต่อ 50,000 นับเป็นการปิดตำนานของ Touch ID บนไอโฟนอย่างเป็นทางการ แม้จะยังคงมีใช้งานอยู่บน Mac และ iPad บางรุ่น

จอภาพคุณภาพสูง OLED ครั้งแรกของ SE

iPhone SE รุ่นที่ 4 จะเป็นรุ่นแรกที่ใช้จอ OLED แทนจอ LCD แบบเดิม ให้สีสันสมจริง คมชัด และมีความเปรียบต่างสูง พร้อมด้วยเทคโนโลยี Ceramic Shield ที่แข็งแกร่งทนทานต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น ถึงแม้จะมีข่าวลือว่าอาจได้ใช้ Dynamic Island แต่ดูเหมือนว่า แอปเปิล จะเก็บฟีเจอร์นี้ไว้สำหรับรุ่นที่แพงกว่า

ประสิทธิภาพระดับเรือธง

ภายในมาพร้อมชิป A18 ตัวท็อปเช่นเดียวกับ iPhone 16 และ RAM 8GB เพื่อรองรับฟีเจอร์ Apple Intelligence ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าความจุเริ่มต้นจะเป็น 128GB เนื่องจาก 64GB ไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน

กล้องเดี่ยวคุณภาพสูง

แม้จะมีกล้องหลักเพียงตัวเดียว แต่ใช้เซ็นเซอร์ความละเอียด 48 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกับ iPhone 16 เพิ่มคุณภาพการถ่ายภาพอย่างก้าวกระโดดจากรุ่นก่อนที่ใช้เซ็นเซอร์ 12 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพพอร์ตเรตรุ่นใหม่ที่ปรับความชัดและระยะชัดลึกได้ พร้อมความสามารถซูมออปติคอล 2 เท่า

เทคโนโลยีการเชื่อมต่อล้ำสมัย

iPhone SE รุ่นที่ 4 จะเป็นไอโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปโมเด็ม 5G ที่ แอปเปิล พัฒนาขึ้นเอง แม้จะไม่รองรับ 5G ย่านความถี่ mmWave แต่สามารถใช้งานเครือข่าย 5G ย่าน 6GHz ที่ให้บริการอย่างแพร่หลายได้ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แทน Lightning และรองรับการชาร์จไร้สาย MagSafe ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่สำคัญของ แอปเปิล ในปัจจุบัน

แบตเตอรี่อึด ฟีเจอร์ความปลอดภัยครบครัน

แบตเตอรี่มีขนาดเท่ากับ iPhone 14 ให้เวลาใช้งานต่อเนื่องนานถึง 20 ชั่วโมงสำหรับเล่นวิดีโอ 16 ชั่วโมงสำหรับสตรีมมิ่ง และ 80 ชั่วโมงสำหรับเล่นเพลง เพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบันที่ให้เวลาใช้งานวิดีโอ 15 ชั่วโมงและสตรีมมิ่ง 10 ชั่วโมง พร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยอย่าง Crash Detection ที่แจ้งเตือนบริการฉุกเฉินเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และ Emergency SOS via Satellite สำหรับขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียมในพื้นที่ไม่มีสัญญาณมือถือ

ราคาและการวางจำหน่าย

แอปเปิล จะเปิดตัว iPhone SE รุ่นที่ 4 ผ่านทางข่าวประชาสัมพันธ์และเว็บไซต์ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ โดยคาดว่าราคาจะต่ำกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่ารุ่นปัจจุบันที่เริ่มต้นที่ 429 ดอลลาร์เล็กน้อย แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่ได้รับ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่า แอปเปิล อาจยกเลิกการจำหน่าย iPhone 14 ที่ราคา 599 ดอลลาร์ เนื่องจาก iPhone SE รุ่นใหม่มีประสิทธิภาพสูงกว่าในราคาที่ถูกกว่า

อ้างอิง | Macrumors.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
ซื้อตอนนี้อาจพลาด! Apple อาจจะเปิดตัว iPad และ Mac ใหม่เดือนมีนาคม – เมษายน มากถึง 3 รุ่น
Apple เริ่มปล่อยอัปเดตเฟิร์มแวร์ใหม่ให้กับอุปกรณ์ติดตามสิ่งของอัจฉริยะ AirTags แล้ววันนี้
Work from Home อย่างไรให้ “เวิร์ค” ด้วย 4 สุดยอดสมาร์ทดีไวซ์ไอทียุคใหม่

Leave Your Reply

*