Apple ประกาศเปิดตัว iPhone 16e รุ่นประหยัดรุ่นใหม่ที่มาพร้อมชิปโมเด็มเซลลูลาร์ C1 ที่พัฒนาขึ้นเองเป็นครั้งแรก พร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว และระบบสแกนใบหน้า Face ID ในราคาเริ่มต้น 20,900 บาท เป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ของไอโฟนรุ่นประหยัด
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ iPhone รุ่นประหยัด
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 Apple ได้เปิดตัว iPhone 16e อย่างเป็นทางการ โดยเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นประหยัดที่มาแทนที่ iPhone SE รุ่นที่ 3 โดยมาพร้อมการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ทั้งดีไซน์และฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากหน้าจอ LCD ขนาด 4.7 นิ้ว มาเป็นจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว พร้อมรอยบากด้านบนสำหรับระบบ Face ID ซึ่งถือเป็นการยุติการใช้งานปุ่มสแกนลายนิ้วมือ Touch ID บนไลน์อัพ iPhone อย่างสมบูรณ์
การออกแบบและวัสดุระดับพรีเมียม
ด้านการออกแบบ iPhone 16e มาพร้อมกรอบอะลูมิเนียมเกรดการบิน และกระจกด้านหน้าที่แข็งแรงทนทาน รองรับมาตรฐานกันน้ำ IP68 ที่ความลึก 6 เมตรนาน 30 นาที มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ มิดไนท์ (ดำ), สตาร์ไลท์ (ขาว), ชมพู, เหลือง, ฟ้า และ (PRODUCT)RED โดยมีความจุให้เลือก 3 ขนาด คือ 128GB, 256GB และ 512GB
ประสิทธิภาพและ AI อัจฉริยะ
iPhone 16e มาพร้อมชิป A18 ที่ช่วยรองรับฟีเจอร์ Apple Intelligence ซึ่งเป็นระบบประมวลผล AI อัจฉริยะ สามารถสรุปการแจ้งเตือน และสร้าง Genmoji หรืออิโมจิแบบกำหนดเองได้ โดยชิป A18 ในรุ่นนี้มี CPU 6 คอร์ และ Neural Engine 16 คอร์ แต่ลดทอนประสิทธิภาพ GPU ลงเหลือ 4 คอร์ ต่างจาก iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ที่มี GPU 5 คอร์ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพโดยรวมยังเร็วกว่า iPhone SE รุ่นที่ 3 ถึง 40%
ระบบกล้องคู่ความละเอียดสูง

ระบบกล้องของ iPhone 16e ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6 พร้อมระบบกันสั่น sensor-shift OIS รองรับการถ่ายภาพ ProRAW และวิดีโอ 4K HDR ที่ 60fps ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 รองรับโหมด Cinema และ Photonic Engine สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย
โมเด็มเซลลูลาร์ C1 นวัตกรรมใหม่จาก Apple
จุดเด่นสำคัญของ iPhone 16e คือการใช้ชิปโมเด็มเซลลูลาร์ C1 ที่ Apple พัฒนาขึ้นเองเป็นครั้งแรก หลังจากใช้เวลาพัฒนามานานกว่า 7 ปี โดย Apple ระบุว่าเป็นโมเด็มที่ประหยัดพลังงานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone ช่วยให้ iPhone 16e มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานที่สุดในบรรดา iPhone หน้าจอ 6.1 นิ้วทั้งหมด สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 20 ชั่วโมงสำหรับการเล่นวิดีโอ ชิป C1 รองรับ 5G ทั้งย่านความถี่ sub-6GHz และ mmWave พร้อมเทคโนโลยี Carrier Aggregation ที่ช่วยเพิ่มความเร็วและเสถียรภาพในการเชื่อมต่อ ทั้งนี้มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบชิปโมเด็ม C2 รุ่นต่อไปแล้ว
iOS 18.4 และฟีเจอร์ใหม่
ในด้านซอฟต์แวร์ iPhone 16e มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 18.4 ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง อาทิ การแจ้งเตือนแบบจัดลำดับความสำคัญด้วย Apple Intelligence ที่สามารถแยกแยะและจัดการการแจ้งเตือนตามบริบทการใช้งาน, เพิ่มสไตล์ Sketch ใน Image Playground สำหรับการสร้างภาพด้วย AI, รองรับภาษาใหม่สำหรับ Apple Intelligence เพิ่มอีก 8 ภาษา และฟังก์ชัน Ambient Music ที่สามารถควบคุมผ่าน Control Center พร้อมการแนะนำเพลงอัตโนมัติตามบริบทและเวลา

การทำงานร่วมกับ Vision Pro และ visionOS 2.4
ในด้านการทำงานร่วมกับ Apple Vision Pro นั้น Apple ได้ประกาศระบบปฏิบัติการ visionOS 2.4 ที่จะนำฟีเจอร์ Apple Intelligence มาสู่แว่นตาความจริงผสม Vision Pro โดยรองรับฟีเจอร์หลากหลาย เช่น Writing Tools สำหรับการสร้าง ตรวจทาน และสรุปข้อความ, Genmoji สำหรับสร้างอิโมจิแบบกำหนดเอง, แอพ Image Playground สำหรับสร้างภาพด้วย AI, Memory Movie สำหรับสร้างสไลด์โชว์แบบกำหนดเอง, ระบบตอบกลับอัตโนมัติสำหรับข้อความและอีเมล, การแจ้งเตือนแบบอัจฉริยะและสรุปการแจ้งเตือน, การผสานรวม ChatGPT กับ Siri และฟีเจอร์ Siri ใหม่ๆ รวมถึง Image Wand สำหรับเพิ่มภาพลงในแอพ Notes พร้อมรองรับการควบคุมด้วยท่าทาง
นอกจากนี้ Apple ยังเพิ่มแอพ Spatial Gallery สำหรับ Vision Pro ซึ่งจะรวบรวมวิดีโอแบบ spatial, ภาพถ่ายแบบ spatial และภาพพาโนรามาที่คัดสรรจากศิลปิน ผู้สร้างภาพยนตร์ และช่างภาพ พร้อมแอพ Vision Pro สำหรับ iPhone 16e ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับการสนับสนุนและความช่วยเหลือเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่างๆ, ดาวน์โหลดแอพสำหรับ Vision Pro, เพิ่มเนื้อหาลงในรายการดู และดูข้อมูลอุปกรณ์อย่างหมายเลขซีเรียล รวมถึงจัดการโหมด Guest Mode สำหรับการแชร์อุปกรณ์กับผู้อื่น
การปรับไลน์อัพและราคา
การเปิดตัว iPhone 16e ในครั้งนี้ Apple ได้ยุติการจำหน่าย iPhone 14 และ iPhone 14 Plus เพื่อจัดระเบียบไลน์อัพผลิตภัณฑ์ใหม่ เนื่องจาก iPhone 14 ซีรีส์เป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังใช้พอร์ต Lightning แทนที่จะเป็น USB-C ทำให้ไลน์อัพ iPhone ปัจจุบันประกอบด้วย iPhone 16e ราคาเริ่มต้น 20,900 บาท, iPhone 15 ราคาเริ่มต้น 24,900 บาท, iPhone 16 ราคาเริ่มต้น 27,900 บาท และ iPhone 16 Plus ราคาเริ่มต้น 30,900 บาท
iPhone 16e จะวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 โดยสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านเว็บไซต์ Apple และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ แม้ว่า iPhone 16e จะมีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่า iPhone SE ถึง 7,000 บาท แต่ก็ยังถูกกว่า iPhone 16 อยู่ 7,000 บาท พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่ทันสมัยและคุ้มค่ากว่าเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนประสิทธิภาพสูงในราคาที่จับต้องได้
อ้างอิง | Macrumors.com