News

แกะกล่อง Xiaomi Buds 5 Pro หูฟังเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด เปิดประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียม

Xiaomi เพิ่งส่ง Buds 5 Pro มาถึงมือเรา หลังเปิดตัวในประเทศจีนและเริ่มวางจำหน่ายในตลาดโลก ก่อนที่เราจะนำมารีวิวอย่างละเอียด

ในมือของเราคือ Xiaomi Buds 5 Pro หูฟังเรือธงรุ่นล่าสุดที่ถูกส่งมาจาก Xiaomi เพื่อทดสอบ เป็นรุ่น Bluetooth มาตรฐานที่มีราคา 199.99 ยูโร (ประมาณ 7,800 บาท) หลังจากที่เราได้ทดสอบรุ่น Buds 5 ธรรมดาไปแล้ว วันนี้เราพร้อมแบ่งปันความประทับใจแรกจากการแกะกล่องหูฟังรุ่นนี้

แกะกล่อง Xiaomi Buds 5 Pro

เปิดกล่อง – อะไรอยู่ข้างใน?

เมื่อแกะกล่อง Xiaomi Buds 5 Pro ออกมา สิ่งแรกที่เราสังเกตเห็นคือเคสชาร์จที่มีดีไซน์สวยงาม ภายในกล่องประกอบด้วยหูฟัง Buds 5 Pro จุกซิลิโคนสำรองหลายขนาดสำหรับการสวมใส่ที่เหมาะสมกับทุกรูปหู และสาย USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบบไร้สายเพราะเคสรองรับการชาร์จไร้สายด้วย ซึ่งเป็นฟีเจอร์มาตรฐานที่คาดหวังได้จากหูฟังระดับเรือธง

สัมผัสแรก – ดีไซน์และความสบาย

เมื่อหยิบหูฟังมาลองสวมใส่ เราสังเกตเห็นความแตกต่างจากรุ่น Buds 5 ธรรมดาทันที Buds 5 Pro มาพร้อมดีไซน์แบบ in-ear ที่ใช้จุกซิลิโคนเพื่อให้เข้ากับช่องหูได้อย่างแนบสนิท ต่างจากรุ่น Buds 5 ที่มีดีไซน์แบบ open-ear

ความรู้สึกแรกเมื่อสวมใส่คือความพอดีและความแน่นหนา จุกซิลิโคนสร้างซีลรอบหูได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้หูฟังอยู่กับที่แม้ขณะเคลื่อนไหว และที่สำคัญคือช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี เป็นการเตรียมพร้อมให้ได้สัมผัสกับคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นและระบบตัดเสียงรบกวนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แกะกล่อง Xiaomi Buds 5 Pro

สเปคที่น่าสนใจ – เทคโนโลยีเสียงระดับเรือธง

เมื่อเปิดแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเพื่อเชื่อมต่อกับหูฟัง เราเริ่มสำรวจสเปคกันอย่างละเอียด Xiaomi ออกแบบ Buds 5 Pro มาพร้อมระบบไดรเวอร์สามชิ้นที่น่าประทับใจ ประกอบด้วยไดนามิกไดรเวอร์ขนาด 11 มม. ไดรเวอร์แบบ planar และทวีตเตอร์ PZT ทั้งยังมี DAC คู่และตอบสนองความถี่ในช่วงกว้าง 15Hz ถึง 50kHz ซึ่งกว้างกว่ารุ่น Buds 5 ธรรมดา

การที่หูฟังรุ่นนี้ได้รับการรับรอง Snapdragon Sound และรองรับ aptX Lossless codec ทำให้สามารถสตรีมเสียงแบบไร้การสูญเสียที่ 48kHz/24-bit ได้ ระบบตัดเสียงรบกวนที่ได้รับการจัดอันดับที่ 55dB ประกอบกับการปรับปรุงการลดเสียงลมรบกวน ทำให้เราตั้งตารอที่จะทดสอบว่าจะทำงานได้ดีแค่ไหนในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนจริง

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอื่นๆ ที่เราจะทดสอบในการรีวิวเต็มรูปแบบคือ เทคโนโลยีการติดตามศีรษะ (head tracking) ที่ช่วยปรับเสียงตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ การจับคู่อุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกัน และโปรไฟล์ EQ ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ

เวอร์ชันพิเศษ – XPAN เทคโนโลยีเสียงแห่งอนาคต

แม้ว่าเราจะได้รับรุ่น Bluetooth มาตรฐาน แต่ต้องไม่ลืมพูดถึงเวอร์ชันพิเศษที่ Xiaomi เตรียมวางจำหน่ายในราคา 219.99 ยูโร (ประมาณ 8,600 บาท) ที่มาพร้อมเทคโนโลยี XPAN ของ Qualcomm เวอร์ชันนี้สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 หรือ 8 Elite ผ่าน Wi-Fi และให้คุณภาพเสียงไร้การสูญเสียที่ 96kHz/24bit ด้วยแบนด์วิดท์สูงถึง 4.2Mbps ซึ่งมากกว่าการเชื่อมต่อ Bluetooth ถึงสองเท่า นี่เป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามองสำหรับอนาคตของหูฟังไร้สาย

แกะกล่อง Xiaomi Buds 5 Pro

แบตเตอรี่ที่น่าประทับใจ – ทดสอบเบื้องต้น

Xiaomi ระบุว่า Buds 5 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 570mAh ในเคสชาร์จ และเซลล์ขนาด 53mAh ในตัวหูฟัง ซึ่งให้การใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมงจากตัวหูฟังและรวมเวลาเล่นทั้งหมด 40 ชั่วโมงเมื่อรวมกับเคสชาร์จ เรายังไม่ได้ทดสอบการใช้งานจริงในการใช้งานปกติ แต่จะมีการทดสอบอย่างละเอียดในการรีวิวเต็มรูปแบบ

ที่น่าสนใจคือตัวหูฟังมีระดับการป้องกันน้ำและฝุ่น IP54 ซึ่งควรเพียงพอสำหรับการใช้งานประจำวันและการออกกำลังกายทั่วไป แต่ควรระวังไม่ให้ตัวเคสชาร์จโดนน้ำเนื่องจากไม่มีการรับรองกันน้ำ

ความคาดหวังที่สูง

หลังจากการสัมผัสครั้งแรกกับ Xiaomi Buds 5 Pro เรามีความคาดหวังสูงกับคุณภาพเสียงและประสิทธิภาพการทำงานของหูฟังรุ่นนี้ ด้วยคุณสมบัติระดับไฮเอนด์ต่างๆ ที่ Xiaomi อัดแน่นมาในราคาที่แข่งขันได้

เราจะทดสอบหูฟังนี้อย่างละเอียดในทุกแง่มุม ทั้งคุณภาพเสียง ประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวน อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และฟีเจอร์พิเศษต่างๆ โปรดติดตามบทรีวิวเต็มรูปแบบของเราเร็วๆ นี้!

อ้างอิง | Gsmarena.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
ภาพหลุดสติ๊กเกอร์เคสเผยรายชื่อ “iPhone 12” ครบทุกรุ่น
TikTok ลุ้นรอด! “ทรัมป์” เล็งระงับแผนแบนแอปในสหรัฐฯ หากได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดี
เปิดตัวแล้ว! “OPPO Reno10 Series 5G” รุ่นใหม่ วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท

Leave Your Reply

*