
หลังจาก แอปเปิล เปิดตัว iPad รุ่นใหม่ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลายคนผิดหวังที่ iPad 11 รุ่นประหยัดไม่รองรับฟีเจอร์ AI ใหม่ล่าสุดง
แอปเปิล เพิ่งเปิดตัว iPad ใหม่สองรุ่นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประกอบด้วย iPad Air รุ่นใหม่ที่มาพร้อมชิป M3 และ iPad รุ่นพื้นฐานที่อัปเกรดด้วยชิป A16 ซึ่งหลายคนคาดหวังว่า iPad รุ่นประหยัดจะสามารถรองรับฟีเจอร์ Apple Intelligence ได้ในที่สุด แต่เรื่องนี้กลับไม่เกิดขึ้น หากคุณกำลังมองหา iPad ที่มีความสามารถด้าน AI ในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า บทความนี้ขอแนะนำให้ลองพิจารณา iPad Air รุ่นชิป M1 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ iPad รุ่นใหม่
iPad 11 รุ่นใหม่ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือเปลี่ยนจากชิป A14 มาเป็นชิป A16 ตามที่ แอปเปิล ระบุว่า iPad รุ่นใหม่นี้มีประสิทธิภาพเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 50% ชิปใหม่นี้ทำงานได้เร็วขึ้นและมี RAM 6GB แทนที่จะเป็น 4GB เหมือนรุ่นเดิม แต่ถึงกระนั้น ชิป A16 ก็ยังไม่สามารถรองรับการทำงานของฟีเจอร์ Apple Intelligence ได้
นี่เป็นความผิดหวังอย่างมากสำหรับลูกค้าที่รอคอยการอัปเกรด iPad มาเป็นเวลานาน แต่ไม่ต้องการใช้เงินจำนวนมากไปกับ iPad Air หรือ iPad Pro รุ่นใหม่เพียงเพื่อให้ได้ใช้ฟีเจอร์ AI ล่าสุดของ แอปเปิล ในขณะที่ iPad 11 มีราคาเริ่มต้นที่ 12,900 บาท iPad Air รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมชิป M3 มีราคาเริ่มต้นที่ 22,900 บาท ส่วน iPad mini 7 มีราคาอยู่ที่ 19,900 บาทสำหรับรุ่นพื้นฐาน
ดังนั้น อะไรคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการซื้อ iPad รุ่นใหม่ที่รองรับ Apple Intelligence โดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก? คำตอบคือ iPad Air รุ่น M1
ทำไม iPad Air รุ่น M1 จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า
iPad Air รุ่นชิป M1 หรือที่รู้จักกันในชื่อ iPad Air รุ่นที่ 5 เปิดตัวในปี 2022 แอปเปิล ไม่ได้จำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกต่อไป แต่คุณยังสามารถหา iPad Air รุ่น M1 ได้ในราคาที่ถูกลงอย่างมากในร้านค้าบางแห่ง โดยเฉพาะหากคุณเต็มใจที่จะซื้อรุ่นตกรุ่นหรือรีเฟอร์บิช iPad รุ่นนี้ดีกว่า iPad 11 รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในหลายๆ ด้าน (อาจจะทุกด้าน) และนี่คือเหตุผล
ทั้งสองรุ่นมีหน้าจอ LCD ขนาด 11 นิ้ว แต่จอภาพบน iPad Air รุ่น M1 มีความก้าวหน้ามากกว่าด้วยแกมต์สี P3 ที่กว้างและเคลือบกันสะท้อน ในขณะที่จอแสดงผลของ iPad 11 จำกัดอยู่ที่สี sRGB และมีกระจกที่ไม่ได้เคลือบสาร ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดแสงสะท้อนมากกว่า
iPad Air รุ่นที่ 5 ยังบางและเบากว่า iPad 11 โดยมีความหนา 6.1 มม. และน้ำหนัก 461 กรัม เทียบกับความหนา 7 มม. และน้ำหนัก 477 กรัมตามลำดับ
แต่สิ่งที่ทำให้ iPad Air รุ่น M1 เป็นที่น่าสนใจมากที่สุดคือชิป M1 นั่นเอง M1 เป็นชิป Apple Silicon ตัวแรกที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ Mac และต่อมาได้นำมาใส่ใน iPad ด้วย มันมี CPU 8 คอร์และ GPU 8 คอร์ ในขณะที่ชิป A16 ใน iPad 11 มี CPU 5 คอร์และ GPU 4 คอร์ นั่นหมายความว่าอย่างไร? iPad Air รุ่นเก่านั้นเร็วกว่า iPad 11 รุ่นใหม่
การทดสอบ Benchmark แสดงให้เห็นว่า M1 เร็วกว่าชิป A16 Bionic ประมาณ 30% (โปรดทราบว่าการเปรียบเทียบนี้อิงตามชิปของ iPhone 15 ซึ่งมี CPU และ GPU เพิ่มอีกหนึ่งคอร์เมื่อเทียบกับชิปใน iPad 11) M1 ยังมี RAM 8GB ซึ่งดีกว่าสำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกันและงานด้าน AI
เนื่องจากเหตุผลนี้ iPad Air รุ่น M1 จึงรองรับฟีเจอร์ของ Apple Intelligence ทั้งหมด รวมถึงฟีเจอร์อย่าง Stage Manager สำหรับการใช้หน้าต่างแอปหลายอย่างพร้อมกันและจอภาพภายนอกกับ iPad iPad 11 ไม่รองรับฟีเจอร์เหล่านี้เลย
iPad Air รุ่นที่ 5 ยังมีพอร์ต USB-C 3.1 ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 10 Gbps ในขณะที่พอร์ต USB-C 2.0 บน iPad 11 จำกัดอยู่ที่ 480 Mbps นั่นหมายความว่าการถ่ายโอนไฟล์ระหว่าง iPad และอุปกรณ์ภายนอก (เช่น กล้อง) จะช้ากว่ามากบน iPad 11 iPad Air ยังใช้งานร่วมกับ Apple Pencil 2 ได้ ซึ่งมีฟีเจอร์มากกว่า Apple Pencil แบบ USB-C สำหรับ iPad 11
ข้อดีของ iPad Air รุ่น M1 เมื่อเทียบกับ iPad 11
โดยสรุปแล้ว iPad Air รุ่นที่ 5 มีข้อได้เปรียบเหนือกว่า iPad 11 ในหลายด้านสำคัญ ทั้งการออกแบบที่บางและเบากว่า จอแสดงผลที่มีคุณภาพสูงกว่าด้วยเทคโนโลยีกันสะท้อนและแกมต์สี P3 ที่กว้างกว่า ประสิทธิภาพการประมวลผลที่เหนือกว่าด้วยชิป M1 ซึ่งมีความเร็วและกราฟิกที่ดีกว่าชิป A16 ถึง 30% และมี RAM 8GB ที่มากกว่า ทำให้รองรับการทำงานหลายงานพร้อมกันได้ดีกว่า
นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ที่ทันสมัยอย่าง Stage Manager สำหรับการจัดการหน้าต่างหลายแอปพลิเคชัน รวมถึงฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่เป็นเทคโนโลยี AI ล่าสุดของ แอปเปิล อีกทั้งยังรองรับ Apple Pencil 2 ที่มีฟีเจอร์มากกว่ารุ่น USB-C และมีพอร์ต USB-C 3.1 ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 10 Gbps ซึ่งเร็วกว่าพอร์ต USB-C 2.0 บน iPad 11 ที่จำกัดอยู่ที่ 480 Mbps ถึง 20 เท่า
ในทางกลับกัน iPad 11 มีข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวเหนือ iPad Air ที่เปิดตัวในปี 2022 นั่นคือความจุเริ่มต้นที่ 128GB ในขณะที่ iPad Air รุ่น M1 เริ่มต้นที่ 64GB
เลือกรุ่นไหนดี?
หากคุณเพียงแค่ต้องการ iPad สำหรับดูวิดีโอและอ่านหนังสือ อาจคุ้มค่าที่จะประหยัดเงินไม่กี่พันบาทและซื้อรุ่นพื้นฐานใหม่ในราคาเพียง 12,900 บาท แน่นอนว่านักเรียนนักศึกษาสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกลงจากร้านค้าการศึกษาของ แอปเปิล ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกประเด็นที่ควรพิจารณา
แต่หากคุณต้องการเข้าถึงฟีเจอร์ล่าสุดของ iPadOS และกำลังมองหาอุปกรณ์ที่สามารถทดแทนแล็ปท็อปได้ iPad Air รุ่น M1 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอย่างแน่นอน แม้แต่ทุกวันนี้ ชิป M1 ก็สามารถรองรับงานและเกมที่หนักที่สุดได้อย่างง่ายดาย และยังรันฟีเจอร์ซอฟต์แวร์เดียวกันกับ iPad รุ่นล่าสุดทั้งหมด
แอปเปิล จำหน่าย iPad Air รุ่น M1 รีเฟอร์บิชในราคา 13,900 บาทสำหรับรุ่น 64GB ผลิตภัณฑ์รีเฟอร์บิชที่รับรองโดย แอปเปิล เป็นผลิตภัณฑ์มือสองที่ผ่านกระบวนการปรับปรุงที่เข้มงวดของ แอปเปิล ก่อนที่จะนำมาวางจำหน่าย เครื่องรีเฟอร์บิชจะถูกจัดส่งในกล่องพิเศษพร้อมอุปกรณ์เสริมดั้งเดิม ผลิตภัณฑ์รีเฟอร์บิชยังได้รับการรับประกันจาก แอปเปิล เป็นเวลา 1 ปีอีกด้วย
คุณคิดอย่างไร? คุณจะเลือก iPad รุ่นไหน? ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ในส่วนความคิดเห็นด้านล่าง
อ้างอิง | 9to5mac.com