
วันนี้ผมได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับสมาร์ทโฟน Redmi Note 14 Pro+ 5G สี Sand Gold ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุด นี่คือสมาร์ทโฟนที่น่าจับจองที่สุดในช่วงนี้ ด้วยคอนเซ็ปต์ “สเปคโหดในราคาที่เอื้อมถึง”


มาดูกันว่าทำไม Redmi Note 14 Pro+ 5G ถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่แกร่งที่สุดในซีรีส์ Redmi Note และเหตุใดมันถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในต้นปีนี้!
ยลโฉมสี Sand Gold สุดหรูหรา! เมื่อสีทองมาอยู่บนมือถือราคาสุดคุ้ม
แกะกล่องออกมา ตะลึงกับความสวยทันทีด้วยสี Sand Gold นี้ไม่ใช่แค่ทองธรรมดา แต่เป็นทองแชมเปญที่ดูมีคลาส เรียบหรูแบบมีระดับ ไม่ฉูดฉาดเกินไปแต่ก็ไม่จืดชืด ดูแพงกว่าราคาจริงเป็นกองเลย

ในกล่องนั้นเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ครบชุด ทั้งตัวเครื่อง อะแดปเตอร์ชาร์จไฟเร็ว 120W (ที่หลายแบรนด์เริ่มตัดออกไปแล้ว), สาย USB Type-C , เข็มเปิดถาดซิม, เคสซิลิโคนสำหรับใช้งานทันที และเอกสารคู่มือการใช้งานพร้อมการรับประกัน ครบครันพร้อมใช้งานไม่ต้องซื้อเพิ่ม
สัมผัสระดับไฮเอนด์! กับดีไซน์สุดพรีเมียมที่เกินราคา จับแล้วหลงรัก
สิ่งแรกที่รู้สึกเมื่อได้จับตัวเครื่องคือความพรีเมียมที่เกินราคา ดีไซน์ตัวเครื่องของ Redmi Note 14 Pro+ 5G จะเป็นดีไซน์แบบโค้งๆ ทั้งหน้าจอ และฝาหลัง และบางเฉียบเพียง 8.75 มิลลิเมตร แต่ให้ความรู้สึกแข็งแรง มั่นคง ไม่ลื่นมือ และที่สำคัญ… ไม่เป็นรอยนิ้วมือง่ายๆ แน่นอน

กรอบตัวเครื่องถูกขัดเงาอย่างประณีต ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถือมือถือระดับแฟลกชิพของแบรนด์ดัง ทั้งที่จ่ายไปแค่ราคาระดับกลางเท่านั้น และที่ทำให้มั่นใจในการใช้งานคือการใช้กระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 ทั้งหน้าจอและฝาหลัง ซึ่งเป็นกระจกระดับท็อปที่มักพบในสมาร์ทโฟนเรือธงราคาสองหมื่นบาทขึ้นไป

ในส่วนของดีไซน์ด้านหน้า Redmi Note 14 Pro+ 5G เลือกใช้การออกแบบหน้าจอแบบเจาะรู (Punch-hole Display) ที่มีความทันสมัยและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน โดยรอยเจาะขนาดเล็กนี้ถูกวางไว้ตรงกลางด้านบนของหน้าจอ เพื่อความสมมาตรและสวยงาม
ภายในรูเจาะนี้ถูกติดตั้งกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 20MP ที่ให้ภาพเซลฟี่คมชัด สีสันสมจริง และยังมาพร้อมระบบ AI Portrait ที่สามารถแยกแยะใบหน้าและฉากหลังได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่มีความโปรเฟสชันนัลมากขึ้น ผู้ใช้สามารถปรับแต่งความเบลอของฉากหลังได้ตามต้องการเพื่อเพิ่มมิติให้กับภาพถ่าย
เหนือขึ้นไปบริเวณขอบหน้าจอด้านบนที่มีขนาดเรียวบางเป็นตำแหน่งของลำโพงเสียงสำหรับการสนทนาไว้อย่างแนบเนียน แทบไม่สังเกตเห็นด้วยตาเปล่า แม้จะมีขนาดเล็กแต่ลำโพงนี้ให้คุณภาพเสียงที่ชัดใส มีความดังเพียงพอแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน ช่วยให้การสนทนาทางโทรศัพท์หรือการประชุมทางวิดีโอเป็นไปอย่างราบรื่น

ด้วยการออกแบบหน้าจอแบบเจาะรูพร้อมขอบจอบางเฉียบนี้ ทำให้ Redmi Note 14 Pro+ 5G มีอัตราส่วนพื้นที่หน้าจอต่อตัวเครื่อง (Screen-to-body ratio) ที่สูง ช่วยให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์การรับชมที่เต็มตาและดื่มด่ำกับเนื้อหาบนหน้าจอได้อย่างเต็มที่ โดยไม่รู้สึกถึงความรบกวนจากรอยเจาะหรือขอบจอ
ส่วนบริเวณด้านล่างของหน้าจอ Redmi Note 14 Pro+ 5G ได้ถูกออกแบบให้มีความเรียบง่าย โดยไม่มีปุ่มกดหรือปุ่มใช้งานใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้ดีไซน์มีความสะอาดตาและทันสมัย

ส่วนบนของ Redmi Note 14 Pro+ 5G ได้รับการออกแบบอย่างรอบคอบเพื่อความสมบูรณ์แบบในการใช้งาน โดยได้ติดตั้งลำโพงเสียงคุณภาพสูงที่ให้เสียงชัดใสและระดับเสียงที่ดังพอเหมาะสำหรับการรับชมวิดีโอ ฟังเพลง หรือการสื่อสาร และยังมี IR Blaster (ตัวส่งสัญญาณอินฟราเรด)

ด้านล่างของ Redmi Note 14 Pro+ 5G ได้รับการออกแบบอย่างเป็นระเบียบและใช้งานง่าย โดยที่ด้านขวาสุดของตัวเครื่องเป็นที่ตั้งของลำโพงหลัก ตรงกลางด้านล่างของตัวเครื่องคือพอร์ต USB Type-C ที่ใช้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนข้อมูล ส่วนทางด้านซ้ายสุดของตัวเครื่องคือช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยรองรับการใช้งานซิมแบบ Nano SIM สองช่อง

ในด้านการออกแบบปุ่มกดบนตัวเครื่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G ทางด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มใช้งานพื้นฐานที่จำเป็น ประกอบด้วยปุ่มยาวสำหรับปรับระดับเสียง โดยด้านบนเป็นปุ่มเพิ่มเสียงและด้านล่างเป็นปุ่มลดเสียง ออกแบบให้แยกกันอย่างชัดเจนเพื่อความสะดวกในการใช้งาน และถัดลงมาคือปุ่มเพาเวอร์ขนาดเล็กกว่าสำหรับเปิด-ปิดเครื่องและล็อคหน้าจอ
การจัดวางปุ่มที่เรียบง่ายนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เข้าถึงฟังก์ชันพื้นฐานได้โดยไม่ต้องมองหาปุ่ม และสามารถจดจำตำแหน่งปุ่มได้ง่าย

ส่วนทางด้านซ้ายของ Redmi Note 14 Pro+ 5G นั้นถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความประณีต ด้วยกรอบโลหะที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างหน้าจอโค้งและฝาหลังกระจกเข้าด้วยกัน แม้จะไม่มีปุ่มกดหรือช่องเสียบใดๆ แต่กลับให้ความรู้สึกลงตัวและสมดุลกับการจับถือ

ต้องบอกว่าการสัมผัสฝาหลังของ Redmi Note 14 Pro+ 5G เป็นอะไรที่ต้องลองเองถึงจะเข้าใจ ความรู้สึกเมื่อจับถือมันให้สัมผัสที่พรีเมียมเกินราคา แถมยังทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่ลื่น พูดง่ายๆ คือจับถนัดมือสุดๆ

ในส่วนของฝาหลัง Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมกับกระจก Corning® Gorilla® Glass 7i ซึ่งไม่เพียงเพิ่มความสวยงามแต่ยังมอบความแข็งแกร่งและทนทานต่อรอยขีดข่วนในระดับสูงอีกด้วย


และในรุ่นนี้ยังคงโดดเด่นด้วยโมดูลกล้องดีไซน์ใหม่ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ สวยงาม ไม่รบกวนสายตา ขอบจอโค้งมนนุ่มนวลต่อเนื่องไปถึงตัวเครื่อง สร้างความรู้สึกพรีเมียมในการใช้งาน
โมดูลกล้องออกแบบมาอย่างลงตัว ด้วยกรอบโลหะสีเงินที่ล้อมรอบเลนส์อย่างสวยงาม ไม่เพียงแต่ดูดีแต่ยังช่วยป้องกันเลนส์เวลาวางเครื่องกับพื้นอีกด้วย และเมื่อวางเครื่องลงบนโต๊ะ มันไม่โยกไปมาเหมือนสมาร์ทโฟนหลายรุ่น ทำให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจ

การจัดวางโมดูลกล้องด้านหลังของเครื่องนี้ถือว่าฉลาดมาก ไม่ได้มีดีแค่สวย แต่ยังได้ประโยชน์ใช้สอยด้วย กรอบโลหะสีเงินรอบเลนส์ไม่ได้มีไว้แค่ให้สวย แต่ยังช่วยปกป้องเลนส์เวลาวางเครื่องกับพื้น แถมยังยกสูงพอดีๆ ทำให้จับถือได้ถนัดมือด้วย
หน้าจอสว่างจัดระดับโรงหนัง คมชัดทะลุจอ สีสันสมจริงเวอร์
เปิดจอแล้วต้องร้องว้าว! เพราะ Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED คุณภาพสูงขนาด 6.67 นิ้ว ที่ได้รับการยกระดับด้วยเทคโนโลยี 1.5K CrystalRes ให้ความละเอียดที่คมชัดเหนือระดับ ถ่ายทอดสีสันได้อย่างสมจริงและสวยงาม ทำให้ผู้ใช้สามารถดื่มด่ำกับประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ วิดีโอ หรือเกม

จุดเด่นที่น่าประทับใจของหน้าจอรุ่นนี้คือความสว่างสูงสุดที่ถึง 3000 nits ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของตลาดสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ความสว่างระดับนี้ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างชัดเจนแม้อยู่ในสภาพแสงแดดจัด กลางแจ้ง ทำให้ผู้ใช้ไม่พลาดทุกรายละเอียดสำคัญแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างมาก

การใช้งานหน้าจอที่มีความสว่างสูงและคุณภาพระดับเรือธงนี้ สร้างประสบการณ์การรับชมที่เหนือระดับ ทั้งความคมชัด ความอิ่มตัวของสี และความเที่ยงตรงของสีที่แสดงผล ส่งผลให้การดูภาพถ่าย วิดีโอ หรือการเล่นเกมมีความสมจริงและน่าประทับใจยิ่งขึ้น เป็นหนึ่งในจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ Redmi Note 14 Pro+ 5G โดดเด่นในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง
ที่ทึ่งมากคือการรองรับสีแบบ 12-bit ที่แสดงได้มากถึง 68.7 พันล้านสี พร้อมรองรับทั้ง HDR10+ และ Dolby Vision ทำให้การรับชมคอนเทนต์บน Netflix หรือ YouTube เหมือนกำลังดูในโรงภาพยนตร์ระดับพรีเมียม ภาพมีมิติ สีสันสมจริง ดูหนังแล้วอินมากๆ

ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่หน้าจอยังถนอมสายตาด้วยเทคโนโลยี PWM Dimming 1920Hz และได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ทั้งด้าน Low Blue Light และ Flicker Free ทำให้ดูคอนเทนต์ยาวๆ หรือเล่นเกมต่อเนื่องได้โดยไม่เมื่อยตา
พกไปไหนก็มั่นใจ! กันน้ำลึก กันฝุ่นหนัก แข็งแกร่งเหนือระดับ อึดทนสุดขีด
หนึ่งในจุดเด่นที่สุดของ Redmi Note 14 Pro+ 5G คือความแข็งแกร่งระดับเทพ ด้วยโครงสร้าง All-Star Armor ที่ทำให้มันทนทานกว่าที่คิด พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ที่แช่น้ำลึก 1.5 เมตรได้นานถึง 30 นาที

ผมเคยใช้งานมือถือรุ่นนี้ตอนฝนตกกำลังถ่ายรูป แล้วเครื่องเปียกไปนิดหน่อย แต่ด้วยเทคโนโลยี Wet Touch 2.0 ทำให้ยังสามารถใช้หน้าจอได้แม้นิ้วจะเปียกน้ำ ไม่ต้องเสียเวลาเช็ดมือให้แห้งก่อนใช้งาน

ความแข็งแกร่งของตัวเครื่องทำให้มั่นใจได้ว่าแม้จะใช้งานแบบหนักหน่วง พกพาไปในทุกที่ ไม่ว่าจะไปทะเล น้ำตก หรือแม้แต่ในวันฝนตก ก็ไม่ต้องกังวลว่ามือถือจะเสียหาย

กล้องหลัก 200MP คุณภาพเยี่ยม ถ่ายสวยทุกสภาพแสง
ด้านการถ่ายภาพ Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมระบบกล้องหลักที่ทรงพลัง โดยมีกล้องหลัก 3 ตัวที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้คุณถ่ายภาพได้หลากหลายรูปแบบ
กล้องหลักความละเอียด 200MP มีจุดเด่นที่เซนเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 1/1.4 นิ้ว ทำให้รับแสงได้มากขึ้น พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.65 และระบบกันสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ช่วยให้ภาพคมชัดแม้ในที่แสงน้อยและถ่ายวิดีโอได้นิ่งไม่สั่นไหว

นอกจากนี้ ยังมีกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง เหมาะสำหรับการถ่ายทิวทัศน์ หรือถ่ายรูปหมู่ในพื้นที่จำกัด และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP ที่ช่วยให้คุณถ่ายภาพวัตถุระยะใกล้ได้อย่างชัดเจน เผยให้เห็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ตาเปล่ามองไม่เห็น

ด้วยชุดกล้องที่ครบครันนี้ ทำให้คุณสามารถบันทึกทุกช่วงเวลาสำคัญได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายทั่วไป ภาพมุมกว้าง หรือภาพระยะใกล้ ครบจบในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว

นอกจากนี้ Redmi Note 14 Pro+ 5G ยังมีความโดดเด่นด้วยการวางตำแหน่งชุดกล้องไว้ตรงกลางด้านบนของฝาหลังตัวเครื่อง ซึ่งเป็นการออกแบบที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปที่มักจะวางชุดกล้องไว้ที่มุมซ้ายบน




ที่เจ๋งสุดๆ คือฟีเจอร์ AI ที่มาช่วยให้การถ่ายภาพง่ายขึ้น เช่น AI Erase Pro ที่ลบคนหรือวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้อย่างเนียนกริบ เหมือนมีช่างภาพมืออาชีพมาช่วยรีทัชให้ หรือ AI Film ที่ปรับแต่งโทนสีให้สวยแบบมืออาชีพ แค่กดปุ่มเดียว







กล้องหน้าเซลฟี่ 20MP จัดเต็มทุกช็อตสวยแบบไม่ต้องแต่ง!
ใครที่ชอบถ่ายเซลฟี่ต้องหลงรักกล้องหน้าของ Redmi Note 14 Pro+ 5G แน่นอน ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 20MP พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.2 ที่ช่วยให้ภาพเซลฟี่คมชัด สว่าง และมีรายละเอียดสูง แม้ในสภาพแสงน้อย รูรับแสง f/2.2 นี้ช่วยให้กล้องสามารถรับแสงได้มากขึ้น ทำให้ภาพถ่ายสว่างและมีสีสันที่สดใสเป็นธรรมชาติ

เจ๋งไปกว่านั้นคือระบบ AI Portrait ที่แยกแยะใบหน้าและฉากหลังได้แม่นยำ ทำให้ภาพเซลฟี่ของคุณดูโปรขึ้นทันที ปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ตามใจชอบ เหมือนมีช่างภาพส่วนตัวมาช่วยจัดแสงให้! แม้จะถ่ายในที่แสงน้อย กล้องหน้าก็ยังให้ภาพที่สว่างชัด ไม่มีนอยส์รบกวน



สายไลฟ์ห้ามพลาด! กล้องหน้าตัวนี้รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p ที่ 60fps ทำให้การไลฟ์สตรีมหรือวิดีโอคอลเป็นไปอย่างราบรื่น ภาพไม่กระตุก สีสันสดใส และที่เด็ดสุดคือระบบ AI Beautify ที่ปรับแต่งให้คุณดูดีในทุกมุมมอง แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ

[ตัวอย่างภาพเซลฟี่ในสภาพแสงต่างๆ]













กล้องหน้า 20MP ก็ไม่น้อยหน้า ให้ภาพเซลฟี่ที่สวยใสเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะระบบ AI Portrait ที่แยกแยะใบหน้าและฉากหลังได้อย่างแม่นยำ ปรับความเบลอได้ตามต้องการ ทำให้ภาพเซลฟี่ดูโปรเหมือนถ่ายด้วยกล้องราคาแพง
ชิป Snapdragon 7s Gen 3 พร้อมรับทุกความมันส์ ลื่นฉ่ำไร้สะดุด
สำหรับสายเกมเมอร์ Redmi Note 14 Pro+ 5G มีชิป Snapdragon 7s Gen 3 ใหม่ล่าสุดที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร ให้ประสิทธิภาพสูงแต่กินไฟน้อย ทำให้เล่นเกมได้นานและไม่ร้อนเกินไป

RAM 12GB ที่ขยายเพิ่มได้อีก ช่วยให้คุณเปิดแอพพร้อมกันหลายๆ แอพได้โดยไม่สะดุด สลับไปมาได้อย่างลื่นไหล พื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ 512GB ก็เพียงพอสำหรับเก็บเกม รูปภาพ วิดีโอ และเพลงไว้มากมาย

ระบบ Xiaomi HyperOS บนพื้นฐาน Android 14 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ลื่นไหลยิ่งขึ้น โดยเฉพาะฟีเจอร์ Game Turbo ที่ปรับแต่งการทำงานให้เหมาะกับการเล่นเกม ทั้งด้านกราฟิกและการตอบสนอง

นอกจากนี้เรายังนำมาทดสอบด้วยการเล่นเกมยอดนิยมอย่าง PUBG Mobile หรือ Genshin Impact ในเซตติ้งระดับสูง ก็ยังรันลื่นไม่มีอาการกระตุก แม้เล่นต่อเนื่องเป็นชั่วโมง เครื่องก็อุ่นเล็กน้อยแต่ไม่ร้อนจนจับไม่ได้ ระบบระบายความร้อนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ

และมั่นใจว่าปลอดภัยด้วยระบบความปลอดภัยเพราะ Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ทั้งสะดวกและน่าเชื่อถือ ด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอที่ตอบสนองรวดเร็ว และระบบสแกนใบหน้าผ่านกล้องหน้า 20MP ที่ทำงานแม่นยำ ผู้ใช้สามารถเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งหรือทั้งสองวิธีร่วมกันเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวได้อย่างมั่นใจ
AI สุดล้ำ! แชทกับ Gemini ช่วยงานรอบด้าน
นอกจากฮาร์ดแวร์ที่แข็งแกร่งแล้ว Redmi Note 14 Pro+ 5G ยังมาพร้อมฟีเจอร์ AI สุดล้ำที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนของคุณไปอย่างสิ้นเชิง
Gemini ผู้ช่วย AI จาก Google ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ ตอบคำถาม แนะนำไอเดีย ช่วยวางแผน หาข้อมูล หรือแม้แต่ช่วยสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากคำสั่งง่ายๆ ของคุณ

ฟีเจอร์ Circle to Search ที่ทำงานได้อย่างน่าทึ่ง เพียงแค่วงกลมที่รูปภาพหรือข้อความบนหน้าจอ คุณก็จะได้ข้อมูลที่ต้องการทันที ไม่ต้องเสียเวลาคัดลอกข้อความหรือถ่ายภาพหน้าจอ เป็นฟีเจอร์ที่ใช้แล้วติดใจจนกลับไปใช้มือถือรุ่นเก่าไม่ได้อีกเลย!

สำหรับนักธุรกิจหรือคนที่ต้องประชุมบ่อย ฟีเจอร์บันทึกย่อ AI จะช่วยสรุปการประชุม สร้างเค้าโครง และช่วยพิสูจน์อักษรให้คุณ ส่วนล่ามแปลภาษา AI จะช่วยแปลแบบเรียลไทม์ ช่วยให้การสื่อสารข้ามภาษาเป็นเรื่องง่าย

ตัวบันทึก AI ยังสามารถถอดเสียงพูดเป็นข้อความ จดจำผู้พูด และสร้างบทสรุปได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่พลาดประเด็นสำคัญในการประชุมอีกต่อไป

แบตเตอรี่ 5,110mAh ไฮเปอร์ชาร์จ 120W ใช้ได้ทั้งวัน
สิ่งที่ทำให้ Redmi Note 14 Pro+ 5G โดดเด่นอีกอย่างคือเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการชาร์จที่ล้ำสมัย แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,110 mAh ให้คุณใช้งานได้ยาวนานเต็มวัน แม้ใช้งานหนักก็ยังอยู่ได้ถึงเย็น

แต่ที่สุดยอดคือระบบชาร์จเร็ว 120W HyperCharge ที่ชาร์จแบตจาก 0% เป็น 100% ในเวลาเพียง 19 นาทีเท่านั้น! เร็วกว่าการอาบน้ำแต่งตัว หรือแม้แต่ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ลืมชาร์จมือถือข้ามคืนไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
ในกล่องยังมีอะแดปเตอร์ชาร์จ 120W มาให้ในชุด ไม่ต้องซื้อเพิ่มเหมือนแบรนด์อื่นที่มักจะตัดอะแดปเตอร์ออกจากกล่อง นับว่าคุ้มค่ามากเพราะหากซื้อแยกอาจมีราคาเฉียดพันบาท

หลังจากทดสอบใช้งานจริง แบตเตอรี่ของ Redmi Note 14 Pro+ 5G อยู่ได้แบบสบายๆ ใช้งานปกติทั้งโทร เล่นโซเชียล ดูวิดีโอ ถ่ายรูปบ้าง ยังเหลือแบตไปถึงวันที่สองได้สบาย
จัดโปรแรงมาก! ลด 1,000 บาท แถมของแถมกว่า 16,000 บาท รีบจับจองก่อนเปลี่ยนใจ
Redmi Note 14 Pro+ 5G สี Sand Gold วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเฉพาะที่ Xiaomi Store เท่านั้น ในราคาสุดพิเศษเพียง 13,990 บาท* (จากราคาปกติ 14,990 บาท) ถือว่าคุ้มมากเมื่อเทียบกับสเปคที่ได้

แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือโปรโมชั่นสุดพิเศษที่เสียวหมี ประเทศไทย จัดให้ โดยจะได้รับของสมนาคุณสุดพรีเมียมฟรี! ทั้ง Redmi Watch 4 และ Xiaomi Fan Festival Sport Bag & Sport Cap พร้อมประกัน รวมมูลค่าสูงถึง 16,070 บาท*

นั่นหมายความว่าคุณจะได้ของแถมที่มีมูลค่ามากกว่าราคามือถือเสียอีก! แต่ต้องรีบหน่อยนะ เพราะโปรโมชั่นพิเศษนี้มีเฉพาะที่ Xiaomi Store ระหว่างวันที่ 6-30 เมษายน 2568 เท่านั้น และของสมนาคุณก็มีจำนวนจำกัดด้วย
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด | โปรโมชันเฉพาะที่ Xiaomi Store ที่ร่วมรายการ | ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด
ขอบอกว่าคุ้มสุด กับสเปคระดับเทพในราคาที่ใครก็เอื้อมถึง
หลังจากได้ทดลองใช้ Redmi Note 14 Pro+ 5G สี Sand Gold มาสักพัก ผมต้องยอมรับว่านี่คือหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าที่สุดในปี 2567 ถ้าคุณกำลังมองหามือถือใหม่ที่เด่นครบทุกด้าน ทั้งกล้อง แบตเตอรี่ หน้าจอ ประสิทธิภาพ และดีไซน์ ในราคาไม่เกิน 15,000 บาท

โปรโมชั่นสุดพิเศษในราคา 13,990 บาท พร้อมของแถมมูลค่ารวม 16,070 บาท ถือเป็นข้อเสนอที่ปฏิเสธยาก หากคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนใหม่ที่ทั้งแรง สวย และคุ้มค่า Redmi Note 14 Pro+ 5G สี Sand Gold คือคำตอบที่ใช่ที่สุดในเวลานี้!