นักข่าวคนไหนได้เครื่องไปแล้วก็ถือว่าโชคดีไปเพราะ iPhone 11 Pro และ iPhone Pro Max รุ่นใหม่มีอะไรให้เราได้ลองเล่นเยอะจริงๆ ยิ่งมันมาพร้อมกับเลนต์ไว้ และ Night Mode สองฟีเจอร์หลักทีสาวก Apple รอคอยยิ่งเพิ่มความอยากได้เข้าไปอีก

ส่วนทีมงานยังไม่ได้เล่นของจริงเลย ดังนั้นวันนี้จึ่งขอหยิบยกตัวอย่างภาพถ่ายในโหลด Night Mode จากเว็บไซต์ www.gsmarena.com มาให้ชมเรียกน้ำย่อยกันก่อน

Apple iPhone 11 Pro/Max 12MP photos with Night Mode (auto) – f/1.8, ISO 1000, 1/8s

Apple iPhone 11 Pro/Max 12MP photos with Night Mode (auto) – f/1.8, ISO 640, 1/8s

Apple iPhone 11 Pro/Max 12MP photos with Night Mode (auto) – f/1.8, ISO 800, 1/8s

Apple iPhone 11 Pro/Max 12MP photos with Night Mode (auto) – f/1.8, ISO 640, 1/4s

Apple iPhone 11 Pro/Max 12MP photos with Night Mode (auto) – f/1.8, ISO 800, 1/4s

Apple iPhone 11 Pro/Max 12MP photos with Night Mode (auto) – f/1.8, ISO 640, 1/25s

Apple iPhone 11 Pro/Max 12MP photos with Night Mode (auto) – f/1.8, ISO 500, 1/25s

Apple iPhone 11 Pro/Max 12MP photos with Night Mode (auto) – f/1.8, ISO 800, 1/8s

Apple iPhone 11 Pro/Max 12MP photos with Night Mode (auto) – f/1.8, ISO 500, 1/13s

Apple iPhone 11 Pro and Pro Max review

สรุปราคาและวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ iPhone

ทั้งนี้ล่าสุดมีการอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาว่าทาง Apple จะวางจำหน่าย iPhone ทั้งสามรุ่นใหม่ ได้แก่ iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ในวันที่ 18 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ทั้ง Apple Store (Icon Siam) รวมไปถึงตัวแทนจำหน่าย และผู้ให้บริการทั้งสามค่ายอย่าง ทรู (True) / ดีแทค (Dtac) / เอไอเอส (AIS) ก็วันเดียวกันครับ

ราคา iPhone 11 
  • รุ่นความจุ 64GB = 24,900 บาท
  • รุ่นความจุ 128GB = 26,900 บาท
  • รุ่นความจุ 256GB = 30,900 บาท
  • มีตัวเลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Black, Green, Yellow, Purple, (PRODUCT)RED และ White
ราคา iPhone 11 Pro 
  • รุ่นความจุ 64GB = 35,900 บาท
  • รุ่นความจุ 256GB = 41,900 บาท
  • รุ่นความจุ 512GB = 49,900 บาท
  • มีตัวเลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Gold, Space Gray, Silver และ Midnight Green
ราคา iPhone 11 Pro Max 
  • รุ่นความจุ 64GB = 39,900 บาท
  • รุ่นความจุ 256GB = 45,900 บาท
  • รุ่นความจุ 512GB = 52,900 บาท
  • มีตัวเลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Gold, Space Gray, Silver และ Midnight Green

เมื่อเทียบกันไปแล้วราคาของประเทศไทย แทบไม่ได้แตกต่างจากประเทศไต้หวันที่เปิดจำหน่ายก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดคงติดตามดูกันต่อไปว่าโปรโมชั่นจะมีราคาเท่าไหร่

Apple iPhone 11 Pro and Pro Max reviewv

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ iPhone 11 Pro
  • หน้าจอแสดงผลขอบโค้งแบบ Super Retina XDR ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 1125 x 2436 พิกเซล
  •  อัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 19.5:9
  • ขนาด: 144 x 71.4 x 8.1 มิลลิเมตร
  • หนัก: 188 กรัม
  • ชิปเซ็ต: Apple A13 Bionic
  • หน่วยความจำแรม (RAM): ไม่ระบุ
  • หน่วยความจำภายใน (ROM): 64 GB, 256GB หรือ 512GB
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง Triple Camera  กล้องตัวแรกเป็น Wide-Angle Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, กล้องตัวที่สองแบบ Telephoto Camera ความละเอียด 12  ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 และกล้องตัวที่สามเป็น Ultra Wide-Camera ความละเอียด 12  ล้านพิกเซล มุมมอง 120 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.4 ไฟแฟลช
  • โหมด Night Mode สำหรับถ่ายภาพเวลากลางคืน
  • รองรับ Face ID การสแกนใบหน้า
  • ส่วนการเชื่อมต่อยังเป็น Lightning
  • แบตเตอรี่ความจุ Apple ออกมาบอกแค่เพียงว่า iPhone 11 Pro อยู่ได้นานกว่า iPhone Xs 4 ชั่วโมง
  • ระบบการชาร์จไร้สายแบบเร็ว (18W Wireless Fast Charging) และฟีเจอร์ Reverse Charging
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ iOS 13
  • ระบบเสียงรองรับ HDR10, Dolby Vision และ Dolby Atmos
  • ตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำและป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP68
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ iPhone 11 Pro Max
  • หน้าจอแสดงผลขอบโค้งแบบ OLED ขนาด 6.5นิ้ว ความละเอียด 1242 x 2688 พิกเซล
  • อัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 19.5:9 พร้อมรองรับมาตรฐานการแสดงผลแบบ HDR10
  • ขนาด: 158 x 77.8 x 8.1 มิลลิเมตร
  • หนัก: 226 กรัม
  • ชิปเซ็ต: Apple A13 Bionic
  • หน่วยความจำแรม (RAM) ไม่ระบุ
  • หน่วยความจำภายใน (ROM) : 64 GB, 256GB หรือ 512GB
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง Triple Camera  กล้องตัวตัวแรกเป็น Wide-Angle Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, กล้องตัวที่สองแบบ Telephoto Camera ความละเอียด 12  ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 และกล้องตัวที่สามเป็น Ultra Wide-Camera ความละเอียด 12  ล้านพิกเซล มุมมอง 120 องศา, รูรับแสงกว้าง f/2.4 และไฟแฟลช
  • โหมด Night Mode สำหรับถ่ายภาพเวลากลางคืน
  • รองรับ Face ID การสแกนใบหน้า
  • ส่วนการเชื่อมต่อยังเป็น Lightning
  • แบตเตอรี่ความจุ Apple ออกมาบอกแค่เพียงว่า iPhone 11 Pro อยู่ได้นานกว่า iPhone Xs 4 ชั่วโมง
  • ระบบการชาร์จไร้สายแบบเร็ว (18W Wireless Fast Charging) และฟีเจอร์ Reverse Charging
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ iOS 13
  • ระบบเสียงรองรับ HDR10, Dolby Vision และ Dolby Atmos
  • ตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำและป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP68

 ขอบคุณที่มา: www.gsmarena.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
Intel กำลังจะเปิดตัว Core i9-9900ks รุ่นพิเศษ แรงทะลุ พร้อมกับ 8 Core ในงาน Computex 2019
Samsung Galaxy S11 เตรียมเผยโฉมในงาน Samsung Galaxy Unpacked 2020
เปิดตัว Xiaomi 13 Series “co-engineered with Leica” อย่างเป็นทางการแล้ว

Leave Your Reply

*