เดลล์ มอบสิ่งที่ดีที่สุดในสายผลิตภัณฑ์ของเดลล์ ทั้งประสิทธิภาพอัดแน่นในระดับเฮฟวี่เวท มาในรูปโฉมการออกแบบที่เพรียวบาง เบา พกพาสะดวก มาพร้อมโปรเซสเซอร์ใหม่ Intel® Core™ รุ่นที่ 10
เดลล์ รับฟังทุกสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ และจำเป็นสำหรับพีซี ทั้งความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพอันทรงพลัง รูปโฉมดีไซน์ที่งดงาม และอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ปัจจุบัน เดลล์ มอบทั้งหมดนี้รวมอยู่ในผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการเปิดตัว ณ Crystal Box เกษรวิลเลจ กรุงเทพฯ
โดยอุปกรณ์ตัวใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงความสมดุลที่ผสานรวมได้อย่างกลมกลืน ระหว่างดีไซน์และประสบการณ์การใช้งาน ซึ่งเป็นการยกระดับนวัตกรรมใหม่ของเดลล์ขึ้นไปอีกขั้นด้วยการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ ที่มีความหมายและนำเสนอได้อย่างไร้ที่ติมาในสายผลิตภัณฑ์ XPS อีกทั้งยังถักทอสิ่งเหล่านี้รวมอยู่ในแบรนด์ Inspiron ได้ครอบคลุม
ในวันนี้ เดลล์ ได้เผยโฉมนวัตกรรมคอมพิวเตอร์ ที่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ด้านโมบายคอมพิวติ้งไปโดยสิ้นเชิง โดยบริษัทฯ ได้ขยายสายผลิตภัณฑ์ในส่วนคอนซูเมอร์ ด้วยการเปิดตัวฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่แกะกล่อง ที่ให้ขุมพลังโปรเซสเซอร์ล่าสุด รุ่น 10 ของอินเทล 10th Gen Intel® Core™ processors ในสายผลิตภัณฑ์รุ่นปัจจุบันของทั้ง XPS และ Inspiron เพื่อมอบประสิทธิภาพที่จำเป็นสำหรับงานประมวลผลหนัก และรองรับ multi-tread เวิร์กโหลดได้ตามต้องการ
ในขณะที่สามารถแสดงคอนเท้นท์แบบ 4K ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเรื่องเหล่านี้ นับเป็นการมอบประสิทธิภาพในระดับเฮฟวี่เวท ที่มาในรูปโฉมดีไซน์ที่เพรียวบาง และเบา พกพาได้สะดวก ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
“ในขณะที่แนวโน้มทั่วอุตสาหกรรมกำลังมุ่งไปที่อุปกรณ์ซึ่งมีความบางและเบาอย่างต่อเนื่อง เรารู้ดีว่าการแข่งขันทั้งหมดไม่ได้อยู่แค่ฟอร์มแฟกเตอร์ที่เล็กลงสำหรับผู้บริโภค แต่กลับเป็นความต้องการในเรื่องของความสามารถในการเชื่อมต่อได้ตลอดเวลา ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพการทำงานในระดับสูง
อีกทั้งเป็นพีซีที่ได้รับการออกแบบมาอย่างไร้ที่ติ” นายอโณทัย เวทยากร รองประธานบริหาร ตลาดเกิดใหม่ภูมิภาคเอเชีย และธุรกิจคอนซูเมอร์ภูมิภาคเอเชียใต้ เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว “ปัจจุบันการมีโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ คือ Intel 10th Gen CoreTM เข้ามาเสริม ทำให้เราสามารถมอบประสิทธิภาพที่จำเป็นสำหรับงานประมวลผลหนัก และตอบโจทย์ multi-thread workloads ในรูปทรงพีซีที่ดีไซน์มาอย่างงดงามและเจิดจรัสได้อย่างลงตัว”
XPS 13 2–in-1 มาในดีไซน์ทันสมัย บางยิ่งขึ้น พร้อมประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่า
สายผลิตภัณฑ์ XPS เป็นอุปกรณ์ของเดลล์ที่ได้รับรางวัลมากที่สุด เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเทคโนโลยีที่ดีสุดที่บรรจงสร้างและใช้วัสดุพิเศษ พร้อมด้วยความสามารถที่ผสมผสานทั้งขุมพลังและความงามได้อย่างลงตัว โดยเดลล์ได้ยกระดับคำมั่นสัญญาขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัว XPS 13 2-in-1 ใหม่ ซึ่งเป็นแล็ปท็อปเครื่องแรกของโลกที่ได้รับการรับรองสเปคตามมาตรฐาน Project Athena ที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดจากอินเทลในรุ่น 10th Gen CoreTM ซึ่งเป็นซีพียูระดับ 10 นาโนเมตร
เดลล์ ยกระดับประสบการณ์ด้านจอดิสเพลย์ในอุปกรณ์ 2-in-1 ใหม่หมดทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นดิสเพลย์ InfinityEdge ที่ใหญ่ขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ในอัตราส่วน 16:10 พร้อมด้วย Dolby Vision นอกจากนี้ ยังให้ทางเลือกใหม่สำหรับดิสเพลย์ทั้ง FHD+ และ UHD+ ที่ปรับปรุงการแสดงสีและความละเอียดได้ดียิ่งขึ้น จับรายละเอียดและความคมชัดของภาพได้อย่างแม่นยำ รวมถึงให้ความสามารถ ในการเพลิดเพลินไปกับคอนเท้นท์คุณภาพระดับ HDR ด้วย UHD+ panel ที่ได้รับการรับรอง HDR400 ทั้งหมดนี้ยังถูกเติมเต็มด้วยการผสานกล้องในแล็ปท็อปที่ตัวเล็กที่สุดของเดลล์เท่าที่เคยมีมา (2.25m) อยู่ที่ขอบด้านบน ช่วยตอบโจทย์ความต้องการอย่างสูงของลูกค้า
XPS 13 2-in-1 เป็นแล็ปท็อปตัวแรกของเดลล์ที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์อินเทลรุ่น 10th Gen Core และให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการใช้งานบนฐานเทคโนโลยี Intel Dynamic Tuning Technology ล่าสุด ซึ่งสามารถเปลี่ยนขุมพลังการทำงานของซีพียูได้ในเชิงรุก สอดรับกับประสิทธิภาพการทำงานของเวิร์กโหลด ทั้งนี้เดลล์ได้คิดค้นวิศวกรรมการออกแบบใหม่ในส่วนของการระบายความร้อนให้โปรเซสเซอร์ทำงานในประสิทธิภาพที่สูงขึ้นได้ พร้อมทั้งสร้างตัวเครื่องในแบบ 2-in-1 ที่เพรียวบางกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 8 เปอร์เซ็นต์ ด้วยดีไซน์ 15W ที่ทำให้เครื่องเย็นเร็ว จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 2.5 เท่า
KillerTM AX1650 (2×2) ใหม่สร้างบน Intel WiFi 6 Chipset ให้ความสามารถในการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้เร็วกว่ารุ่นแรกถึง 3 เท่า โดย Killer 1650 จะตรวจจับ แยกประเภทและจัดลำดับความสำคัญของวิดีโอสตรีมมิ่ง และการสื่อสาร รวมถึงทราฟฟิกเกม ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ในการใช้งานออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล
ด้วยวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยอุปกรณ์ในปัจจุบัน ผู้ใช้ต้องจ้องมองอุปกรณ์เป็นเวลาหลายชั่วโมงในแต่ละวัน และทำให้ได้รับปริมาณแสงสีน้ำเงินในระดับสูง ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดจากการปลดปล่อยแสงสีน้ำเงิน ขณะเดียวกันก็ยังสามารถคงประสิทธิภาพในเรื่องขอบเขตของสี (color gamut) ได้ดี เดลล์ได้นำจอ Eyesafe® มาไว้ใน XPS 13 2-in-1 เพื่อช่วยลดแสงสีน้ำเงินที่อาจเป็นอันตรายและกระจายไปตามสเปคตรัมของแสง
การที่ 2-in-1 ตัวใหม่นี้ ได้กลายเป็นผู้ชนะเลิศรางวัล COMPUTEX d&I นับเป็นการยืนยันถึงพันธสัญญาของเดลล์ในเรื่องความใส่ใจและพิถีพิถันในรายละเอียด ที่ผสมผสานกับงานช่างฝีมือที่มีความชำนาญเข้ากับวัสดุเกรดพรีเมียมได้อย่างลงตัว ดีไซน์ใหม่นี้ เป็นงานอลูมิเนียมที่ทำด้วยเครื่องจักร CNC พร้อมฝาด้านข้างแบบ diamond cut แผ่นรองข้อมือทำจากคาร์บอนไฟเบอร์สีดำ และ Gorilla Glass 6 ที่ให้ทั้งความงดงามและทนทาน นอกจากนี้ เดลล์ยังยกระดับส่วนสำคัญ คือทัชแพดที่ใหญ่ขึ้น คีย์บอร์ด MagLev จากขอบชนขอบ (edge-to-edge) และดีไซน์บานพับแบบใหม่ที่รังสรรค์มาอย่างแยบยล ผสมผสานประสบการณ์การใช้งานที่ให้ความพิเศษเข้ากับดีไซน์ที่สวยงามได้อย่างลงตัวในตัวเครื่องขนาดเล็ก
แล็ปท็อป Inspiron ใหม่ ให้ทั้งขุมพลังและสไตล์ที่เหมาะกับทุกคน
นอกจากนี้ เดลล์ ยังได้นำเสนอแล็ปท็อป Inspiron ใหม่ในอีกหลากหลายรุ่น และรุ่น 2-in-1 ที่มาในดีไซน์ใหม่และร่วมสมัย พร้อมฟีเจอร์ใหม่ และราคาที่คุ้มค่า โดยตอนนี้ผู้ใช้ทุกรายสามารถหาอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการมาใช้งานพร้อมจุดประกายศักยภาพในการทำงานได้อย่างลงตัว
โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด Intel® Core™ ในรุ่นที่ 10 ช่วยให้เดลล์นำเสนอประสิทธิภาพที่เหนือชั้นยิ่งขึ้นสำหรับเวิร์กโหลดแบบ multi-thread ในสายผลิตภัณฑ์ Inspiron ใหม่ ที่รวมถึงแล็ปท็อป Inspiron 13 7391 2-in-1 ใหม่ ที่มีการเปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2019 และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชนะเลิศรางวัล COMPUTEX d&i Award
โดยเวอร์ชั่นใหม่ของ Inspiron 13 7000 2-in-1 นี้มีช่องเก็บปากกาซึ่งเป็นแม่เหล็กอยู่ในบริเวณบานพับเพื่อเก็บ Dell Active Pen ได้อย่างแยบยล และหยิบใช้ได้ง่ายไม่ว่าจะใช้งาน 2-in-1 ในโหมดไหนก็ตาม และยังมาพร้อมพรีเมียมฟีเจอร์มากมายที่มีในรุ่น Inspiron 7000 series ทั้งทัชสกรีน 4k UHD ที่ล้อมด้วยกรอบจอที่แคบทั้ง 3 ด้าน และมีการออกแบบการระบายความร้อนใหม่เพื่อระบายความร้อนผ่านช่องระบายที่ซ่อนอยู่ในบานพับ รวมถึงตัวเครื่องที่ทำจากอลูมิเนียมพร้อมขอบแบบ diamond-cut บนทัชแพด ที่ให้ความหรูหราน่าสัมผัส
ดีไซน์ Adaptive Thermals แบบใหม่ที่ใช้อัลกอริธึ่มขั้นสูงและเครื่องวัดความเร่งในการเคลื่อนที่ของวัตถุ (accelerometers) ที่สามารถรู้ได้ว่ามีการถือตัวเครื่อง 2-in-1 อยู่ หรือวางอยู่บนโต๊ะ และจะปรับพลังงานตามการใช้พร้อมกับใช้ช่องระบายอากาศที่อยู่ในบานพับเพื่อให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่เหมาะกับทุกสถานการณ์ ผู้ใช้ยังจะได้สัมผัสถึงดีไซน์ที่ให้ความสะดวกสบายและฟีเจอร์เทคโนโลยีอีกมากมายเช่น ปุ่มพาวเวอร์ที่บิวด์-อินตัวอ่านลายนิ้วมือไว้ในตัว แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่รองรับ ExpressChargeTM[i] พอร์ต HDMI ขนาดมาตรฐาน Micro SD card reader และพอร์ต USB Type-CTM ที่รองรับ ThunderboltTM 3 และ พอร์ต USB 3.1 Gen 1 ทั้งหมดนี้มาพร้อมในรูปโฉมตัวเครื่องขนาดกะทัดรัดที่ออกแบบมาอย่างสวยงามด้วยน้ำหนักเพียงแค่ 1.39 กิโลกรัม
นอกจากนี้ เดลล์ยังนำโปรเซสเซอร์อินเทลรุ่นใหม่ล่าสุด Intel® Core™ ในรุ่นที่ 10 พร้อมด้วยวัสดุพรีเมียมและประสิทธิภาพเหนือชั้นมาใส่ไว้ในแล็ปท็อปรุ่นบางเป็นพิเศษ รุ่นใหม่อย่าง Inspiron 17 7000 (7400) ที่หนักเพียงแค่ไม่ถึง 1.1 กิโลกรัม
ในดีไซน์เพื่อการพกพาที่ให้ความประทับใจ และประสบความสำเร็จจากการเปิดตัววัสดุที่ให้ความเบาบางและทนทานอย่าง magnesium alloy chassis พร้อมเซ็นเซอร์ใหม่ที่ใช้ในการปิด-เปิด มี Connected Modern Standby และตัวอ่านลายนิ้วมือที่ฝังมากับปุ่มพาวเวอร์ ช่วยให้ sign-in และเริ่มใช้งานในระบบได้อย่างรวดเร็วปลอดภัย นอกจากนี้แล็ปท็อปที่ออกแบบมาอย่างมีสไตล์ ยังให้ขอบบางตลอดตัวเครื่องให้ coverage ของ sRGB 100% เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงานหลายอย่างผ่านโมบาย
นอกจากนี้ Inspiron 14 5000 series ยังได้รับการอัพเกรดเป็นโปรเซสเซอร์อินเทลรุ่นล่าสุด Intel® Core™ ในรุ่นที่ 10 เช่นกัน โดยแล็ปท็อป Inspiron 14 5000 (5490) ยังมีขนาดกะทัดรัด สร้างมาเพื่อให้ความมั่นใจและรองรับการใช้งานที่หลากหลายไปพร้อมกัน และให้ทางเลือกสีได้อย่างมีสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสี Platinum Silver สี Iced Lilac และสี Iced Gold
บริการหลังการขายระดับพรีเมี่ยมจากเดลล์
โซลูชันสำหรับคอนซูเมอร์ของเดลล์ จะมาพร้อม Premium Support Service โดยเป็นบริการที่มากับฟีเจอร์ทั้งหมดซึ่งอยู่ในแผนงานรวมเพื่อสนับสนุนการใช้งาน โดยจะมีฟีเจอร์หลักอย่าง การกำจัดไวรัส การซ่อมในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และการสแกนอัตโนมัติเพื่อตรวจเช็คการทำงานพีซีเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Premium Support ยังมาพร้อมซอฟต์แวร์ SupportAssist ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของเดลล์ ที่ช่วยให้บริหารจัดการพีซีได้ง่ายยิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถเลือกเพื่อปลดล็อคการใช้งานในแบบเต็มประสิทธิภาพได้
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังจะได้รับความช่วยเหลือระดับมืออาชีพจากทีมงานที่พร้อมให้การสนับสนุนเฉพาะสำหรับผู้ใช้แต่ละรายในแบบตัวต่อตัวสำหรับกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่า parental controls การแบ็กอัพข้อมูล หรือการตั้งค่าการใช้งานฮาร์ดดิสก์และซอฟต์แวร์เพื่อให้เหมาะกับผู้ใช้ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเหมือนใช้พีซีเครื่องใหม่ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากเดลล์ พร้อมช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับผู้ใช้
Premium Support รวมเรื่องต่อไปนี้
- เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์แวร์ และซอฟต์แวร์ได้โดยตรงผ่านโทรศัพท์ได้ตลอดเวลา 24×7
- ให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือ ณ ไซต์งานหลังการประเมินอาการผ่านระบบจากระยะไกล
- ซ่อมแซมในกรณีที่เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ เช่นเครื่องตก น้ำหกใส่ และไฟฟ้ากระตุก
- ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาด้านซอฟต์แวร์ได้ทุกวัน
- ให้ความช่วยเหลือส่วนตัวด้วยซอฟต์แวร์ สำหรับปัญหาที่ซับซ้อน หรือช่วยเรื่องการตั้งค่าการแบ็กอัพข้อมูล การควบคุมการใช้งานของบุตรหลาน (parental controls) ฯลฯ
- ให้บริการหลังการขายโอนข้ามประเทศ
- ให้การบริการด้านซอฟต์แวร์เพื่อควบคุมการใช้งานของบุตรหลาน
- SupportAssist ให้ฟีเจอร์ด้านเทคโนโลยีในประเด็นเหล่านี้
- ค้นหาปัญหาในเชิงรุก และทำการติดต่อเดลล์ ในระหว่างที่มีการแจ้งเตือนผู้ใช้งาน
- คาดการณ์ปัญหาก่อนที่จะเกิด
- กำจัดไวรัสและมัลแวร์
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานพีซีให้เหมาะสมกับผู้ใช้ได้อย่างอัตโนมัติ
บริการดังกล่าว พร้อมให้บริการแล้วสำหรับลูกค้าในประเทศไทย สามารถติดต่อ Call Center ของเดลล์ ได้ที่ 02-670-7252 และสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dell.com/premiumsupport
การวางจำหน่าย
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ทุกตัววางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งจากเดลล์
- Dell XPS 13 7000 2-in-1 (7390) ราคาเริ่มต้น 69,990 บาท
- Dell Inspiron 13 7000 2-in-1 (7391) ราคาเริ่มต้น 34,990 บาท
- Dell Inspiron 14 7000 (7490) ราคาเริ่มต้น 39,990 บาท
- Dell Inspiron 14 5000 (5490) ราคาเริ่มต้น 26,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม
เชื่อมต่อกับเดลล์ ประเทศไทย เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Facebook