หลังจากที่มีข้อมูลของ Samsung Galaxy S20 Series หลุดออกมาเรื่อยๆ และแน่นอนก่อนงานเปิดตัวที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ เราจึงขอโอกาสสรุปข้อมูลเปกและราคาของ Samsung Galaxy S20, Samsung Galaxy S20+ และ Samsung Galaxy S20 Ultra มาให้อ่านกันก่อนเจอของจริงครับ

สเปกคร่าวๆ ของ Samsung Galaxy S20

  • หน้าจอ DynamicAMOLED 6.2″ 3200 x 1440 พิกเซล ขนาด 6.2 นิ้วความละเอียดระดับ 2K พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
  • ขนาดตัวเครื่อง 152 x 68 x 7.9 มม.
  • น้ำหนัก 164 กรัม
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 865
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB
  • หน่วยความจำภายในความจุ 128GB รองรับการเพิ่มความจำภายนอกสูงสุด 1TB
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Tele 3x ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (Digital Zoom 30x), เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
  • ระบบปลดล็อค Face Recognition Ultrasonic Fingerprint
  • แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh
  • รองรับ Fast Charge 25W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi Wireless Power Share 2.0
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0
  • Samsung Galaxy S20 (8 GB/128 GB) : 899 ยูโร (ประมาณ30,800 บาท)
  • Samsung Galaxy S20 5G (12 GB /128 GB) : 999 ยูโร (ประมาณ 34,200 บาท)
  • สี เทา, ฟ้า, ชมพู

สเปกคร่าวๆ ของ Samsung Galaxy S20+

  • หน้าจอ DynamicAMOLED 6.7″ 3200 x 1440 พิกเซล WQHD+ (HDR10+) ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
  • ขนาดตัวเครื่อง 162 x 74 x 7.8 มม.
  • น้ำหนัก 188 กรัม
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 865
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB
  • หน่วยความจำภายในความจุ 128GB รองรับการเพิ่มความจำภายนอกสูงสุด 1TB
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Tele 3x ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (Digital Zoom 30x), เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ ToF (Time-of-Flight) สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้น
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
  • ระบบปลดล็อค Face Recognition Ultrasonic Fingerprint
  • แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh
  • รองรับ Fast Charge 25W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi Wireless Power Share 2.0
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0
  • Samsung Galaxy S20+ (8 GB/128 GB) : 999 ยูโร (ประาณ 34,200 บาท)
  • Samsung Galaxy S20+ 5G (12 GB/128 GB) : 1,099 ยูโร (ประมาณ 37,700 บาท)
  • สี  ดำ, เทา, ฟ้า

สเปกคร่าวๆ ของ Samsung Galaxy S20 Ultra

  • หน้าจอ DynamicAMOLED 6.9″ 3200 x 1440 พิกเซล WQHD+ (HDR10+) ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
  • ขนาดตัวเครื่อง 167 x 76 x 8.8 มม.
  • น้ำหนัก 221 กรัม
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 865
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB / 16GB
  • หน่วยความจำภายในความจุ 128GB / 512GB รองรับการเพิ่มความจำภายนอกสูงสุด 1TB
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Tele 10x ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล(Digital Zoom 100x), เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, กล้อง ToF (Time-of-Flight) สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้น
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
  • ระบบปลดล็อค Face Recognition Ultrasonic Fingerprint
  • แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
  • รองรับ Fast Charge 45W (แบบสาย) รองรับชาร์จไร้สาย Qi Wireless Power Share 2.0
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0
  • Samsung Galaxy S20 Ultra 5G (12 GB/128 GB) : 1,349 ยูโร (ประมาณ 46,300 บาท)
  • Samsung Galaxy S20 Ultra 5G (16 GB/512 GB) : 1,549 ยูโร (ประมาณ 53,100 บาท)
  • สี ดำ, เทา

ทั้งหมดนี้เป็นสเปกคร่าวๆ ของ “Samsung Galaxy S20, Samsung Galaxy S20+ และ Samsung Galaxy S20 Ultra” ก่อนงานเปิดตัว Samsung Galaxy Unpacked 2020 ซานฟรานซิสโก พร้อมกันทั่วโลก 11 กุมภาพันธ์ตามเวลาในสหรัฐอเมริกาหรือเวลาไทยก็ราวๆ ตี 1 ของวันที่ 12 เป็นตอนไปครับและเมืองไทยเองทาง Samsung ประเทศไทยก็ร่อนจดหมายเชิญสื่อไทยไปสัมผัสและเปิดตัวทั้ง 3 อย่างเป็นทางการในวันที่ 12 กุมภาพันธ์แล้วเช่นกัน

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
realme Buds Air 2 Neo หูฟังไร้สาย พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน จะเปิดตัว 7 เมษายน นี้
Mac Studio และ Mac Pro รุ่น M4 เตรียมเปิดตัวกลางถึงปลายปี 2025
[ลือ] iPhone 15 Pro จะมาพร้อมกับ LiDAR Scanner ที่ปรับปรุงใหม่

Leave Your Reply

*