ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ลบภาพเดิมๆ ของสมาร์ทโฟน Motorola เมื่อเขาเปิดตัว Flagship รุ่นใหม่ของปี 2020 อย่าง Motorola Edge และ Motorola Edge+ กับดีไซน์ที่โมโตไม่เคยมีมาก่อน

โดยรุ่นท๊อปจะเป็น Motorola Edge+ ที่จัดเต็มทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 865 รองรับ 5G มาพร้อมจอ AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ทั้งยังรองรับ HDR10+, รีเฟรชเรท 90Hz และแสดงผลของสี 10 bit

ทั้งยังใส่ DDR5 RAM 12GB, ROM 256GB ไม่รองรับ microSD, UFS 3.0 มาให้ทำงานลื่นและจุเยอะ โดยที่กล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 108ล้านพิกเซล เป็นการทำงานรวมกันของ 4+1 พิกเซล ซึ่งค่าเริ่มต้นจริงๆ อยู่ที่ 27ล้านพิกเซล + กล้อง Telephoto 8ล้านพิกเซล + Ultrawide Angle 16ล้านพิกเซล และ TOF 3D ซึ่งรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 6K และมีกล้องหน้าเจาะรูบนจอความละเอียด 25ล้านพิกเซล

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญของแบตเตอรี่ที่มีความจุถึง 5000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W, Wireless charging 15W โดยโมโตโรล่าเครมว่าอยู่ได้นานถึง 2 วัน และอีกจุดที่น่าสนใจคือการใส่ช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้ทั้ง 2 รุ่นที่ด้านบนของตัวเครื่อง

ส่วนรุ่นรองลงมาเป็น Motorola Edge ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับรุ่นพี่ แต่สเปคค่อนข้างแตกต่างกันชัดเจน โดยมีหน้าจอ AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใช้งานลื่นรีเฟรชเรท 90Hz แต่ไม่รองรับ HDR10+ ทั้งยังใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 765 ซึ่งยังคงรองรับ 5G บนเครือข่าย 6GHz เท่านั้น และมี RAM 6GB สำหรับรุ่นที่วางขายทั่วโลก แต่มี RAM 4GB ในอเมริกาเหนือ โดยมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB รองรับ microSD

กล้องถ่ายรูปมี 3 เลนส์เช่นกัน แต่กล้องหลักความละเอียด 64ล้านพิกเซล + กล้อง Telephoto 8ล้านพิกเซล + Ultrawide Angle 16ล้านพิกเซล และ TOF 3D ซึ่งกล้องหน้าเท่ากันที่ 25ล้านพิกเซล

โดย Motorola Edge+ จะวางจำหน่ายผ่าน Verzion ส่วนตลาดอื่นๆ เริ่มจำหน่ายพฤษภาคม ในราคาราวๆ €1,199 หรือประมาณ 41,900 บาท และ Motorola Edge จะเริ่มวางจำหน่ายในตลาดยุโรป ละตินอเมริกา และเอเชียแปซิฟิก ในเดือนเดียวกัน ตามด้วยสหรัฐฯ ภายหลัง มีราคาอยู่ €599 หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 20,900 บาท

ขอบคุณที่มา: Talktrendy.net