จากการปล่อย ColorOS 7 Trial version บน OPPO Reno2 ไปเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ครั้งนี้ OPPO แบรนด์ผู้นำด้านสมาร์ทโฟนก็ได้ประกาศอีกครั้งในการอัพเดต ColorOS 7 บน OPPO Reno2 โดยจะสามารถอัพเดตได้ในตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งการอัพเดตนี้จะทำให้ OPPO Reno2 มีความคุ้มค่าต่อการเลือกซื้อมากยิ่งขึ้น

ColorOS 7 ใหม่ บน Android 10 มาพร้อมสโลแกนใหม่ “Smooth and Delightful” และฟีเจอร์แบบใหม่ที่มีความไหลลื่นและใช้งานง่าย โดยมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ทั้งภาพ เสียง และเกม รวมทั้งฟีเจอร์พิเศษที่มีเฉพาะประเทศนั้นๆ เพื่อมอบประสบการณ์โดยรวมที่รวดเร็วและราบรื่นขึ้นให้แก่ผู้ใช้ OPPO Reno2

ออกแบบให้เรียบง่ายและสบายตา เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่แก่ผู้ใช้

ด้วยการออกแบบแบบไร้รอยต่อของ ColorOS 7 นั้น จะช่วยมอบความสบายตาให้แก่ผู้ใช้งาน ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น พร้อมช่วยให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสไปกับเนื้อหาบนหน้าจอได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งไอคอนได้ด้วยตนเอง และยังมี Dark Mode ที่จะช่วยมอบประสบการณ์ในการอ่านที่เหนือกว่า รวมถึงยังสามารถช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อีกด้วย

“ColorOS 7 ใหม่นี้ นับเป็นเอกลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบของ OPPO” Eddie Opara หุ้นส่วนของ Pentagram ตัวแทนการออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ร่วมมือกับ OPPO ในด้านแบรนด์และการปรับภาพลักษณ์ใหม่กล่าว “จากการให้เสียงและภาพในการมอบประสบการณ์และมอบความดื่มด่ำในการใช้งานให้แก่ผู้ใช้นั้น แสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่ลื่นไหลของแบรนด์ OPPO”

มอบประสบการณ์การโต้ตอบที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้ใช้ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของเสียง

ColorOS 7 พัฒนาการโต้ตอบแก่ผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ การปรับเสียงปลุกเป็นเสียงของสภาพอากาศโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่ผู้ใช้จะสามารถปรับแต่งวอลเปเปอร์ได้ด้วยตนเองแล้ว แต่ผู้ใช้ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับภาพพื้นหลังแบบไดนามิกที่มีชีวิตชีวา ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาหรือเมื่อมีการสัมผัสหน้าจออีกด้วย โดยพื้นหลังที่มีการเคลื่อนไหวนี้ยังรวมไปถึงสัญลักษณ์เชิงวัฒนธรรม ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นการถ่ายภาพนิ่งที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการเน้นย้ำถึงวิสัยทัศน์ในระดับโลกว่า ColorOS นั้นเป็นหน้าต่างของโลกอีกด้วย

ในขณะเดียวกัน ยังได้รับการอัพเกรดการตอบสนองของเสียง ให้มีความชัดเจนและละเอียด เพื่อมอบประสบการณ์การสัมผัสที่สมจริงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีภาพเคลื่อนไหวใหม่ ในขณะชาร์จแบตเตอรี่ สภาพอากาศ และการลบแอพพลิเคชันอีกด้วย อีกทั้ง ColorOS ยังร่วมมือกับ บริษัทออกแบบเครื่องเสียง Epic Sound ของเดนมาร์กเพื่อพัฒนาระบบเสียงโดยรวมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ซึ่งเอฟเฟกต์เสียงแบบใหม่นี้จะมอบประสบการณ์การฟังที่ผ่อนคลาย ที่สามารถใช้ได้ทั้งระบบควบคุม เสียงเรียกเข้า เสียงแจ้งเตือน และอื่นๆ

เร็วและลื่นไหลยิ่งกว่าที่เคย 

ขับเคลื่อนด้วยแนวคิด UI-First โดย ColorOS ได้รับการพัฒนาจาก Cache Preload, oMem และ oSense เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ลื่นไหลและรวดเร็ว ซึ่งการโหลดแคชล่วงหน้านี้ เป็นกลไกที่จะช่วยให้คุณจะสามารถเริ่มใช้งานแอพพลิเคชันได้เร็วมากขึ้น ในขณะเดียวกัน oMem จะช่วยปรับให้เข้ากับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ และจะช่วยจัดสรรระบบการใช้งานได้แบบมีประสิทธิภาพ

ด้วยเทคโนโลยีนี้ จะทำให้การใช้งาน RAM เพิ่มขึ้น 40% และด้วยการใช้งานหลายแอพพลิเคชันในเวลาเดียวกัน จะทำให้การตอบสนองของระบบเพิ่มขึ้น 30% นอกจากนี้ oSense กลไกการจัดลำดับการทำงานเมื่อมีการใช้งานหลายฟังก์ชั่นพร้อมกันที่ให้ความสำคัญกับหน้าตาของแอปและส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองต่อการสัมผัสและอัตราเฟรมเรท ทำให้การเล่นเกมราบรื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการเล่นเกมที่มีการต่อสู้กัน จะปรับให้สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสได้ 21.6% และพัฒนาอัตราเฟรมเรท 38%

การป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

OPPO ทราบดีว่า การปกป้องความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งที่สำคัญ จึงมุ่งมั่นที่จะปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญของผู้ใช้ ซึ่งการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะช่วยป้องกันข้อมูลผู้ใช้จากแอปภายนอก ซึ่งการรักษาความเป็นส่วนตัวนี้จะมีการถ่ายโอนข้อมูลภาพ วิดีโอ เสียง และ และเอกสารอื่นๆ ไปยังโซนที่ปลอดภัยในโฟลเดอร์ที่ปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลจากแอพพลิเคชันอื่นๆ

สำหรับคนที่สนใจสามารถไปที่ Settings > Software updates > และทำตามขั้นตอน

สร้างเรื่องราวใหม่ไปกับ OPPO Reno2

OPPO Reno2 Series ได้เปิดตัวไปเมื่อปี 2562 โดยมุ่งเน้นที่ให้ผู้ใช้บอกเล่าเรื่องราวผ่านการถ่ายภาพ วิดีโอ และความบันเทิงต่างๆ ซึ่งตอนนี้ขับเคลื่อนโดย ColorOS 7 ใหม่ที่ใช้ Android 10 ให้ผู้ใช้ OPPO Reno2 จะได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น

ในส่วนของการถ่ายภาพ OPPO Reno2 มาพร้อมกล้องหลังถึง 4 ตัว ความละเอียด 48MP + 13MP + 8MP + 2MP เพื่อมอบประสบการณ์ภาพถ่ายที่สวยและคมชัด นอกจากนี้ยังมาพร้อม Ultra Steady Video ให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอได้นิ่งไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่สั่นไหวแค่ไหน

โดย OPPO Reno2 วางจำหน่ายในราคา 15,999 บาท ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.oppo.com/th/smartphone-reno2/

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เผยข้อมูล “iPhone 17” บางเฉียบ ทรงพลัง และอาจเป็น iPhone ที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์
“realme 3 Pro” สมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่มาพร้อมกล้องหลังคู่และรองรับ VOOC 3.0
ส่องภาพ OPPO Reno 10x Zoom ก่อนเปิดตัว 4 มิถุนายนนี้

Leave Your Reply

*