ซัมซุงพลิกโฉมประสบการณ์ใหม่บนสมาร์ทวอทช์ เปิดตัว Galaxy Watch4 และ Galaxy Watch4 Classic
![](http://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/006_galaxywatch4_green_pinkgold_galaxywatch4classic_black_silver.jpg)
สองพี่น้องในตระกูลGalaxy Watch4 series นำเสนอชุดฟีเจอร์เพื่อสุขภาพที่ครบวงจร พร้อมระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เฟซโฉมใหม่ และเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ พร้อมก้าวสู่ยุคใหม่แห่งนวัตกรรมสมาร์ทวอทช์ เปิดตัว Galaxy Watch4 และ Galaxy Watch4 Classic สมาร์ทวอชท์รุ่นแรกที่มาพร้อม Wear OS™ ที่ซัมซุงได้พัฒนาร่วมกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง Google™ รวมถึง One UI Watch โฉมใหม่ที่มอบอินเทอร์เฟซการใช้งานที่ตอบสนองได้ดีที่สุดของซัมซุง โดย Galaxy Watch4 series ยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีด้านฮาร์ดแวร์อันทรงประสิทธิภาพ ยกระดับประสบการณ์ใช้งานและการเชื่อมต่อที่ลื่นไหลกว่าที่เคย เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาอุปกรณ์ในการช่วยดูแลสุขภาพของตนเองอย่างแท้จริง
![](http://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/003_galaxywatch4classic_black.jpg)
ดร. ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชัน ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า “เรามองเห็นการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญของสมาร์ทวอทช์ตระกูล Galaxy Watch ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการที่ผู้ใช้เล็งเห็นประโยชน์ด้านสุขภาพและความสะดวกสบายที่ได้รับจากอุปกรณ์ โดยเราเข้าใจถึงไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพที่แตกต่างกันของผู้บริโภค จึงได้พัฒนาชุดฟีเจอร์ประสิทธิภาพสูงที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพในทุกมิติ เพื่อให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าใจร่างกายและสุขภาพโดยรวมของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/017_galaxywatch4_family_black_black_pinkgold_silver.jpg)
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ Samsung Galaxy Watch4
- สี: 44 มิลลิเมตร: ดำ เขียว, 40 มิลลิเมตร: ดำ พิงค์โกลด์, 46 มิลลิเมตร: ดำ เงิน
- ขนาดและน้ำหนัก: ตัวเรือนอลูมิเนียม 44 มิลลิเมตร: 44.4 x 43.3 x 9.8 มิลลิเมตร, 30.3 กรัม, 40 มิลลิเมตร: 40.4 x 39.3 x 9.8 มิลลิเมตร, 25.9 กรัม
- จอแสดงผล: – 44 มิลลิเมตร: 1.4 นิ้ว (34.6 มิลลิเมตร) 450×450 Super AMOLED, Full Color Always On Display, Corning® Gorilla® Glass DX+, 40 มิลลิเมตร: 1.2 นิ้ว (30.4 มม.) 396×396 Super AMOLED, Full Color Always On Display, Corning® Gorilla® Glass DX+
- หน่วยประมวลผล: Exynos W920 Dual Core 1.18GHz (5nm Processor)
- หน่วยความจำ: หน่วยความจำหลัก (RAM) 1.5GB และ หน่วยความจำภายใน 16GB
- แบตเตอรี: 44 มิลลิเมตร/46 มิลลิเมตร: 361 มิลลิแอมป์, 40 มิลลิเมตร/ รองรับการชาร์จแบบไร้สายที่ใช้ WPC
- ระปบบปฏิบัติการ: Wear OS ดำเนินงานโดย Samsung
- UI: One UI Watch 3
- เซ็นเซอร์: Samsung BioActive Sensor (Optical Heart Rate + Electrical Heart + Bioelectrical Impedance Analysis), Accelerometer, Barometer, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Light Sensor
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/004_galaxywatch4classic_family_black_silver.jpg)
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ Samsung Galaxy Watch4 Classic
- สี: 46 มิลลิเมตร: ดำ เงิน
- ขนาดและน้ำหนัก: ตัวเรือนสแตนเลส 46 มิลลิเมตร: 45.5 x 45.5 x 11.0 มิลลิเมตร, 52 กรัม
- จอแสดงผล: 46 มิลลิเมตร: 1.4 นิ้ว (34.6 มิลลิเมตร) 450×450 Super AMOLED, Full Color Always On Display, Corning® Gorilla® Glass DX
- หน่วยประมวลผล: Exynos W920 Dual Core 1.18GHz (5nm Processor)
- หน่วยความจำ: หน่วยความจำหลัก (RAM) 1.5GB และ หน่วยความจำภายใน 16GB
- แบตเตอรี: 44 มิลลิเมตร/46 มิลลิเมตร: 361 มิลลิแอมป์, 40 มิลลิเมตร/ รองรับการชาร์จแบบไร้สายที่ใช้ WPC
- ระปบบปฏิบัติการ: Wear OS ดำเนินงานโดย Samsung
- UI: One UI Watch 3
- เซ็นเซอร์: Samsung BioActive Sensor (Optical Heart Rate + Electrical Heart + Bioelectrical Impedance Analysis), Accelerometer, Barometer, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Light Sensor
ชุดฟีเจอร์เพื่อการดูแลสุขภาพที่ครบวงจรและล้ำสมัยที่สุดของซัมซุง
Galaxy Watch4 series มาพร้อมนวัตกรรมเซ็นเซอร์ BioActive ชั้นนำของซัมซุง ที่ผ่านการพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงประสิทธิภาพการตรวจวัดที่แม่นยำ พร้อมความสามารถตรวจจับข้อมูลได้ถึง 2,400 จุด โดยใช้เวลาในการตรวจวัดเพียง 15 วินาที
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/011_galaxywatch4_handson_pinkgold.jpg)
โดยทำงานร่วมกับชิปประมวลผลเพื่อประมวลค่าด้านสุขภาพได้อย่างละเอียดแบบ 3-in-1 ซึ่งได้แก่ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอล (Optical Heart Rate) คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrical Heart) และการวิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกายหรือ BIA (Bioelectrical Impedance Analysis) ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามระดับความดันโลหิต ตรวจจับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (AFib) หรือเช็คระดับออกซิเจนในเลือด และครั้งแรกกับความสามารถในการวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย ได้โดยตรงจากสมาร์ทวอทช์บนข้อมือ
ซึ่งฟังก์ชันใหม่ล่าสุดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพและความสมบูรณ์ของร่างกายตัวเองได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยประเมินจากค่ามวลกระดูกและกล้ามเนื้อ อัตราการเผาผลาญพลังงาน และเปอร์เซ็นต์น้ำและไขมันในร่างกาย เป็นต้น
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/Untitled-12.jpg)
สมาร์ทวอทช์รุ่นล่าสุดนี้ยังทำหน้าที่คอยติดตามกิจวัตรในแต่ละวันพร้อมเป็นแรงผลักดันให้ผู้ใช้หันมาใส่ใจสุขภาพและดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกรูปแบบการออกกำลังกายตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองจากตัวเลือกที่หลากหลาย หรือเพิ่มสีสันด้วยการสร้าง Group Challenge เพื่อกำหนดเป้าหมายการออกกำลังกายและร่วมพิชิตไปพร้อมกับเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/Galaxy-Watch41.jpg)
หรือเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นยิมขนาดย่อมเพียงเชื่อมต่อ Galaxy Watch4 series เข้ากับซัมซุงสมาร์ททีวีที่รองรับ ซึ่งข้อมูลและค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญ หรืออัตราการเต้นของหัวใจ จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อมอบประสบการณ์ที่สะดวกยิ่งขึ้นทั้งนี้ เมื่อถึงเวลาของการพักผ่อน Galaxy Watch4 series ยังมาพร้อมฟีเจอร์ติดตามรูปแบบการนอนหลับที่ครอบคลุมและสมบูรณ์ที่สุด
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/Galaxy-Watch42.jpg)
โดยสามารถใช้สมาร์ทโฟนที่รองรับในการตรวจจับเสียงกรน ในขณะที่สมาร์ทวอทช์บนข้อมือยังสามารถวัดค่าออกซิเจนในเลือดขณะนอนหลับได้อีกด้วย รวมถึงฟีเจอร์ที่ช่วยประเมินและให้คะแนนคุณภาพการนอนหลับ (Sleep Scores) ให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้รูปแบบการนอนของตัวเองเพื่อนำไปปรับกิจวัตรการพักผ่อนให้เหมาะสมยิ่งขึ้นได้
สัมผัสที่สุดแห่งประสบการณ์การใช้งานบนสมาร์ทโฟน ผ่าน One UI Watch และ Wear OS จากซัมซุง
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/002_galaxywatch4_black_green.jpg)
จุดเด่นของแพลตฟอร์มกาแลคซี่สมาร์ทวอทช์ คือ ความเรียบง่าย การใช้งานที่สะดวก และประสิทธิภาพอันทรงพลัง ซึ่งด้วย One UI Watch ใหม่ จะทำให้สมาร์ทวอทช์ได้รับการติดตั้งแอปพลิเคชันเดียวกับที่ผู้ใช้งานดาวน์โหลดลงบนสมาร์ทโฟนโดยอัตโนมัติ รวมถึงการตั้งค่าการใช้งานต่างๆ อาทิ ช่วงเวลาที่ห้ามรบกวน และเบอร์ที่ไม่ต้องการรับสาย ก็จะซิงค์กันโดยทันทีเช่นกัน รวมถึง Wear OS ที่ดำเนินงานโดยซัมซุง จะทำให้ผู้ใช้เข้าถึงหลากหลายอีโคซิสเต็มได้อย่างง่ายดายจากสมาร์ทวอทช์บนข้อมือ
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/007_galaxywatch4_handson_pinkgold.jpg)
ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชันยอดนิยมจาก Googl อย่าง Google Maps บริการต่างๆ จากซัมซุง กาแลคซี่ เช่น Samsung Pay, SmartThings หรือ Bixby รวมถึงแอปพลิเคชันชั้นนำอื่นๆ อย่าง adidas Running, Calm และ Spotify บน Google Play ทั้งนี้ ด้วยฟีเจอร์ Auto Switch ยังทำให้หูฟังสามารถทำหน้าที่สลับการใช้งานระหว่างสมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอทช์ได้ตามต้องการ รวมถึงผู้ใช้ยังสามารถควบคุมการใช้งานผ่าน Bixby voice, บริเวณขอบหน้าจอ และการควบคุมด้วยท่าทาง (Gesture Control) ได้อย่างง่ายดายด้วยการยกปลายแขนขึ้นลงสองครั้งเพื่อรับสายเรียกเข้า หรือหมุนข้อมือสองครั้งเพื่อปฏิเสธสาย หรือปิดการแจ้งเตือน (notification) และนาฬิกาปลุก (alarm)
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/004_galaxywatch4_handson_black.jpg)
รวมทุกประสิทธิภาพอันทรงพลังไว้ที่สมาร์ทวอทช์บนข้อมือ
Galaxy Watch4 series ถือเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกที่ใช้ชิปเซ็ตแบบ 5nm ทำให้ CPU เร็วขึ้น 20% หน่วยความจำหลัก (RAM) เพิ่มขึ้น 50% และหน่วยประมวลกราฟฟิก (GPU) แรงขึ้น 10 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้สามารถเลื่อนหน้าจอได้อย่างลื่นไหล พร้อมทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้แบบไม่มีสะดุด
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/Untitled-10.jpg)
รวมถึงจอแสดงผลที่ซัมซุงได้เพิ่มค่าความละเอียดหน้าจอให้สูงสุดถึง 450 x 450 พิกเซล เพื่อมอบภาพที่คมชัด สีสันโดดเด่น และหน่วยความจำขนาด 16GB ที่ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน พร้อมจัดเก็บเพลงและภาพได้มากเท่าที่ต้องการ พร้อมเสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัยของข้อมูลด้วยแพลตฟอร์ม Knox security ของซัมซุง
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/005_galaxywatch4_black_galaxywatch4classic_black.jpg)
นอกจากนี้ จากความเป็นผู้นำเทคโนโลยี eSIM ของซัมซุง ผู้ใช้ยังสามารถเพลิดเพลินกับการใช้งานได้โดยไม่ต้องพกพาสมาร์ทโฟนตลอดเวล ซึ่งด้วยความสามารถของแบตเตอรี่ใน Galaxy Watch4 series ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 40 ชั่วโมง พร้อมรองรับระบบการชาร์จเร็ว ที่เพียงแค่การชาร์จเป็นเวลา 30 นาที ก็ทำให้ใช้งานได้เพิ่มถึง 10 ชั่วโมง
กำหนดการวางจำหน่ายและราคาของ Samsung Galaxy Watch4 และ Samsung Galaxy Watch4 Classic
โดย Galaxy Watch4 มาพร้อมกับดีไซน์อันทันสมัยแต่คงไว้ซึ่งความเรียบง่าย พร้อมตัวเลือกของขนาดหน้าปัดที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว ได้แก่ หน้าปัดขนาด 40 มิลลิเมตร (BLT) ในสีดำและพิงค์โกลด์ วางจำหน่ายในราคา 7,990 บาท (BLT) และหน้าปัดขนาด 44 มิลลิเมตร มาในสีดำและสีเขียว ราคา 8,990 บาท (BLT) และ 10,900 บาท (LTE)
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/003_galaxywatch4_pinkgold.jpg)
ในขณะที่ Galaxy Watch4 Classic ได้ออกแบบมาเพื่อผู้ที่แสวงหาความคลาสสิกเหนือกาลเวลา ด้วยรูปลักษณ์หน้าปัดแบบหมุนที่หลายคนชื่นชอบ ซึ่งวางจำหน่ายในรุ่น หน้าปัดขนาด 46 มิลลิเมตร กับตัวเลือกสีดำและสีเงินสุดหรู ในราคา 11,900 บาท (BLT) และ 13,900 บาท (LTE) ในตัวเลือกสีดำ
![](https://www.techhausth.com/wp-content/uploads/2021/08/002_galaxywatch4classic_silver.jpg)
ทั้งนี้ สำหรับ Galaxy Watch4 Classic Thom Browne เคลือบโรเดียมรุ่นพิเศษจะวางจำหน่ายในปลายเดือนกันยายนที่จะมาถึงนี้
ที่มา : samsungmobilepress.com