ไมโครซอฟท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตระกูล Surface ใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อม Windows 11  ที่สุดแห่งความทรงพลังและสะดวกในการพกพาสำหรับทุกคน

Surface Go 3 มาพร้อมที่สุดแห่งการพกพา สำหรับผู้ใช้งานที่มองหาการเชื่อมต่อ การทำงานร่วมกันและความบันเทิงที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ราคาเริ่มต้นที่ 14,999 บาท ยังคงความเบาบางกับน้ำหนัก 544 กรัม

หน้าจอสัมผัส PixelSense ขนาดใหญ่ 10.5 นิ้ว มาพร้อมกล้องที่ให้ความละเอียดคมชัดระดับ 1080p และมีไมโครโฟนสำหรับสตูดิโอคู่ที่ดีที่สุด ลำโพงสเตอริโอ และรองรับระบบเสียง Dolby มอบความสมบูณ์แบบในการเชื่อมต่อ โดยรุ่น LTE จะวางจำหน่ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

surfacego3_(2)

“เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ Surface Go 3 พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อขยายไลน์อัพดีไวซ์ในตระกูล Surface สำหรับ Windows 11 ให้ครบครันมากยิ่งขึ้น ดีไวซ์รุ่นใหม่ๆ ของ Windows เข้ามาช่วยปลดล็อคนวัตกรรมอันล้ำสมัยให้กับฮาร์ดแวร์สำหรับอนาคต ในทศวรรษที่ผ่านมา Surface นับเป็นดีไวซ์แถวหน้า ที่มาพร้อมความท้าทายในการฉีกกฎจากรูปแบบเดิม ริเริ่มประสบการณ์ใหม่ และสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ของดีไวซ์

เราเชื่อว่าด้วยความสามารถการพกพานี้ Surface Go 3 จะช่วยให้ผู้คนจำนวนมากทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น และรังสรรค์งานในทุกรูปแบบได้ทุกที่ ทุกเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโลกใบนี้” นางชนิกานต์ โปรณานันท์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและปฏิบัติการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

Surface Go 3 คือ Surface แบบทูอินวัน เหมาะสำหรับการพกพาที่สมบูรณ์แบบที่สุด เหมาะสำหรับทั้งการทำงาน การเรียน และความบันเทิง และถูกดีไซน์มาให้ใช้งานกับคุณสมบัติเด่นมากมายของ Windows 11 ได้อย่างลงตัว แรงกว่าเดิมถึง 60% ด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Core i3 ที่มาพร้อม LTE Advanced2 และแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานตลอดวัน1 อีกทั้งมีระบบความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ติดตั้งมาในตัว เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแท็บเล็ตกับแล็ปท็อปให้เอนกประสงค์ยิ่งกว่าที่เคยด้วยอุปกรณ์ดิจิทัลอย่าง Surface Pen และระบบสัมผัส

ผลิตภัณฑ์ในตระกูล Surface ได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งมอบประสบการณ์ของผู้ใช้งานไมโครซอฟท์ โดยทุกอุปกรณ์พร้อมมอบประสบการณ์ในการพิมพ์อันน่าทึ่ง วัสดุเกรดพรีเมียม การวางกล้องในตำแหน่งที่ถูกต้อง และมีอัตราส่วนภาพกว้างยาว 3:2 เพื่อการปรับมุมมองของเอกสารได้อย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ Surface Go 3 ใหม่ และอุปกรณ์เสริมยังพร้อมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานได้ว่าจะสามารถใช้ Microsoft 365, Teams, Edge และอื่นๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ และด้วย Windows 11 จะทำให้ Surface Go 3 ปลดล็อกประโยชน์และความสามารถที่แท้จริงที่สร้างขึ้นผ่านการออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์โดยคำนึงถึงประสบการณ์การใช้งานมาอย่างดีแล้วอีกด้วย

ไมโครซอฟท์ยังมีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์อันไร้รอยต่อพร้อมความปลอดภัยให้ผู้ใช้งานอยู่เสมอ กับการประกาศวิธีการเข้าใช้งานอุปกรณ์แบบไม่ต้องใช้พาสเวิร์ดล่าสุด ที่สามารถใช้งานได้แล้วในแอปพลิเคชัน Microsoft Authenticator นับเป็นอีกก้าวสำคัญสำหรับเป้าหมายของไมโครซอฟท์ให้ใช้งานอุปกรณ์แบบไม่ต้องใช้พาสเวิร์ด ที่จะทำให้ผู้ใช้ เข้าใช้งานอุปกรณ์ได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บล็อค เพื่อเรียนรู้วิธีการยกเลิกการใช้พาสเวิร์ดในบัญชีไมโครซอฟท์ 

oceanplasticmouse-lifecyc
Microsoft Ocean Plastic Mouse

เม้าส์ Microsoft Ocean Plastic นับเป็นก้าวเล็กๆ สู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่กว่าในเส้นทางสู่ความยั่งยืนของไมโครซอฟท์ ด้วยความร่วมมือกับ SABIC (Saudi Basic Industry Corporation) ไมโครซอฟท์ได้พัฒนาวัสดุเรซินคุณภาพสูง

โดยนำพลาสติกที่รีไซเคิลมาจากขยะที่เก็บได้จากในมหาสมุทร หรือลอยมาเกยฝั่งริมทะเลและแม่น้ำต่างๆ มาใช้เป็นส่วนผสมถึง 20% เม้าส์ Ocean Plastic ที่ทำจากเรซิน เป็นอุปกรณ์เสริมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้งานง่าย ที่นับเป็นก้าวเล็กๆ ในการช่วยลดขยะ และยังมอบประสบการณ์การใช้อุปกรณ์เสริมอันทรงพลังให้ผู้ใช้งาน วางจำหน่ายแล้ววันนี้ราคา 780 บาท

Surface Go 3 พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่ายสำหรับลูกค้าทั่วไปที่ Banana, JIB, DKAN, IT City, Power Buy และ Shopee Microsoft Authorized Store และลูกค้าภาคธุรกิจที่ CipherMed และ ADD In Business

โดยจะมีจำหน่ายในประเทศไทยตามรายละเอียดดังนี้:
surface-go-3-price
SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
“แคสเปอร์สกี้” เผยกลโกง “โจรขโมยคริปโตวอลเล็ต”
พิเศษ: หลุดภาพเรนเดอร์ “Apple iPhone SE 3 (2022)”
การ์ทเนอร์คาดอีกสองปี องค์กร 30% จะมองว่าการใช้โซลูชันการยืนยันและพิสูจน์ตัวตนแบบเอกเทศ

Leave Your Reply

*