ตามรายงานฉบับใหม่ (ผ่าน DigiTimes) ที่อ้างว่า Apple เตรียมนำเทคโนโลยี OLED แบบ “hybrid” มาใช้ใน iPads รุ่นใหม่ๆ ภายในปี 2567 ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์บางลงในขณะที่สามารถลดต้นทุนการผลิตไปด้วยเช่นกัน

ด้วยการรวมพื้นผิวแก้ว OLED แบบแข็งเข้ากับการห่อหุ้มฟิล์มบาง OLED ที่ยืดหยุ่นได้ กล่าวกันว่าเทคโนโลยี OLED แบบไฮบริดจะทำให้แผง OLED บางกว่าแผง OLED แบบแข็ง มีรายงานว่ากระบวนการนี้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าแผง OLED ที่ยืดหยุ่นได้ เนื่องจากไม่ต้องใช้เลเยอร์แบ็คไลท์

การอ้างอิงถึงเทคโนโลยี OLED แบบไฮบริดปรากฏครั้งแรกในรายงานเดือนสิงหาคมจากร้าน The Elec ของเกาหลี ซึ่งยังกล่าวอีกว่า Apple สามารถนำมาใช้ใน iPads ได้ภายในปี 2024 อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวอ้างว่า Apple ต้องการ OLED แบบไฮบริดมากกว่าแผง OLED แบบยืดหยุ่นที่ใช้ในรุ่น iPhone เนื่องจากแผงแบบยืดหยุ่นมีแนวโน้มที่จะ “ยับ” อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น

การกลับมาของข่าวลือปรากฏในบริบทของรายงานที่อ้างว่า Apple ได้นำพันธมิตรด้านการผลิตรายอื่นมาสู่ซัพพลายเชนของตน ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับการรีเฟรช iPad Pro และ MacBook Pro รุ่น 12.9 นิ้วที่กำลังจะเกิดขึ้น

รายงานอ้างว่า Apple ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ความพยายามของ Taiwan SMT ในการขยายกำลังการผลิต โดยมีอุปกรณ์บางอย่างที่อุทิศให้กับกระบวนการ SMT สำหรับไฟแบ็คไลท์ LED ขนาดเล็ก ซึ่งทำได้ยากกว่าไฟแบ็คไลท์ LED แบบมาตรฐาน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการใช้ไฟแบ็คไลท์ LED มากกว่า ชิป LED ขนาดเล็ก

ปัจจุบันอุปกรณ์ Apple เดียวที่ใช้ LED ขนาดเล็กคือ MacBook Pro รุ่น 14 นิ้วและ 16 นิ้ว และ ‌iPad Pro‌ ขนาด 12.9 นิ้ว อุปกรณ์ทั้งสามนี้คาดว่าจะได้รับการรีเฟรชด้วยชิป M2 ก่อนสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ Apple คาดว่าจะใช้เทคโนโลยีแบ็คไลท์ LED ขนาดเล็กต่อไปจนกว่าเทคโนโลยี OLED แบบไฮบริดจะครบกำหนดและพร้อมสำหรับการจำหน่าย ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นก่อนปี 2024 ตามรายงาน

ที่มา – www.macrumors.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
Samsung ร่วมมือกับ Hyundai Motor Group นำเสนอไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต
ขายดี Apple เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่เพียงรายเดียวที่มียอดการจัดส่งที่โตขึ้น
Facebook เปลี่ยนกฎใหม่ให้ Messenger จะต้องมีบัญชี Facebook ถึงจะใช้งานได้

Leave Your Reply

*