จากข่าวคราวและการรวมข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone SE รุ่นที่ 4 ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกัน แต่มันก็เป็นคำถามว่า 3 สิ่งที่ว่านั้นจะเป็นไปในทิศทางไหน

ล่าสุดเว็บไซต์ MyDriver และ Jon Prosser นักปล่อยข้อมูลได้มีการวิเคราะห์สิ่งที่คาดว่า iPhone SE 4 อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามที่เขาคิดด้วยกันแต่จะมีอะไรบ้างที่น่าสนใจมาดูกัน

ขนดาหน้าจอจะอยู่ที่เท่าไหร่กัน

จากข้อมูลที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าหน้าจอจะอยู่ระหว่าง 5.7 – 6.1 นิ้ว โดยทั้ง 2 จะมีการผลิตจากต่าง Supplier และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะได้ใช้บอดี้แบบเดียวกับ iPhone XR ที่มีขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว ทั้งนี้ Ming Chi-Kuo เผยว่าอาจจะมีให้เลือกทั้ง 2 ขนาด สิ่งที่น่าลุ้นคือตอนนี้ Apple ยังไม่ฟันธงว่าจะใช้ขนาดหน้าจอเท่าไหร่กับมือถือรุ่นใหม่นี้

เทคโนโลยีหน้าจอจะเป็นแบบ LCD หรือ OLED

นอกจากขนาดหน้าจอแล้วก็จะมีเรื่องเทคโนโลยีหน้าจอที่ลือกันออกมา ปัจจุบัน iPhone SE ใช้หน้าจอเทคโนโลยี LCD และเป็นรุ่นเดียวที่ใช้อยู่ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงหากเป็นหน้าจอ 6.1 นิ้วก็อาจจะใช้หน้าจอแบบ OLED แบบเดียวที่ใช้กับ iPhone 12 และ iPhone 13

อย่างไรก็ดีเทคโนโลยีนี้เปิดตัวงตั้งแต่ปี 2017 กับ iPhone X  ซึ่งถือว่าเป็นมือถือรุ่นแรกที่ใช้จอแบบ OLED ของ Apple ข้อดีมันก็คือสามารถจัดการพลังงานได้ดีเพราะถ้าเป็นการแสดงผลสีดำ ก็จะไม่เปิดไฟออกมาและรองรับทั้งแสงที่สูงและ High Dynamic Range ดังนั้นต้องลุ้นกันต่อไปว่า iPhone SE จะได้ใช้หน้าจอแบบไหนกันต่อไป

จะใช้ Touch ID แบบเดิม หรือไปใหม่กับ Face ID

ย้ายมาจากเรื่องหน้า มาดูที่ระบบความปลอดภัยบ้าง โดย iPhone XR ที่เปิดตัวในเวลานั้นใช้ระบบสแกนใบหน้าแบบ Face ID แต่เมื่อ iPhone SE 4 จะมีดีไซน์ไร้ปุ่ม Home แล้วก็อาจจะมีความเป็นไปได้ทั้งคู่ว่าจะสแกนนิ้วมือที่ปุ่ม Power แบบเดียวกับ iPad Air, iPad Mini, iPad Gen 10

ซึ่งหลายฝ่ายก็มีการวิเคราะห์ที่เหมือนกันว่า Apple มีแผนจะทำปุ่ม TouchID ที่ด้านข้างตรงปุ่ม Power ที่คล้ายกับ iPad Air, iPad Mini และ iPad Gen 10 เพราะสามารถลดต้นทุนของตัวเครื่องมากกว่า Face ID ที่ต้นทุนสูงกว่า ดังนั้นเราอาจจะได้เห็น iPhone SE 4 เป็นมือถือรันแรกของ Apple ที่ใช้ระบบสแกนนิ้วมือด้านข้าง

จากข้อมูลที่ผ่านออกมาก็ทำให้มีการสรุปชัดเจนว่า iPhone SE 4 จะมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดและคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2024 แต่ทั้งหมดต้องดูกันอีกครั้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดอีกครั้งหรือไม่