โหลดเลย “iOS 12.1” มาแล้วพร้อมฟีเจอร์ใหม่และความสามารถ e-sim ที่จะใช้ได้แล้วใน iPhone รุ่นใหม่

iOS 12.1

iOS 12.1 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่และต่อยอดจาก iOS 12 รุ่นปกติ ได้ปล่อยให้โหลดอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ คำถามคือ มันมีอะไรใหม่บ้างนั้น เรามาดูฟีเจอร์กันดีกว่า

iOS 12.1

iOS 12.1 มาพร้อมกับคุณสมบัติ FaceTime แบบกลุ่ม เพิ่มอิโมจิใหม่กว่า 70 แบบ และมีการรองรับซิมคู่แบบ eSIM สำหรับ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR รายการอัพเดทนี้ยังมีการแก้ไขข้อบกพร่องและการปรับปรุงต่างๆ อีกด้วย

iOS 12.1

FaceTime แบบกลุ่ม

  • เพิ่มการรองรับสายโทรแบบวิดีโอและแบบเสียงที่สามารถมีผู้เข้าร่วมพร้อมกันได้สูงสุดถึง 32 คน
  • มีการเข้ารหัสแบบต้นทางถึงปลายทางซึ่งจะทำให้บทสนทนาของคุณมีความเป็นส่วนตัว
  • เริ่มโทร FaceTime แบบกลุ่มจากกลุ่มสนทนาในแอพข้อความได้ทันที หรือเข้าร่วมสายโทรที่โทรอยู่เมื่อใดก็ได้

อิโมจิ

  • อิโมจิใหม่กว่า 70 แบบ ซึ่งประกอบด้วยตัวละครใหม่ๆ ที่มีผมสีแดง ผมสีเทา และผมหยักศก อิโมจิใหม่สำหรับผู้คนที่มีศีรษะล้าน ใบหน้ายิ้มที่แสดงอารมณ์ได้มากขึ้น และอิโมจิเพิ่มเติมที่แสดงถึงสัตว์ กีฬา และอาหารต่างๆ

การรองรับซิมคู่

  • ขอแนะนำซิมคู่แบบ eSIM ซึ่งทำให้อุปกรณ์สามารถมีเบอร์โทรศัพท์ได้สองเบอร์ในเครื่องเดียวสำหรับ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR

การปรับปรุงและการแก้ไขอื่นๆ

  • ขอแนะนำการควบคุมระยะชัดลึกในการแสดงตัวอย่างภาพของกล้องบน iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR
  • ปรับปรุงการเชื่อมต่อแบบเซลลูลาร์สำหรับ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR
  • เพิ่มความสามารถในการเปลี่ยนหรือรีเซ็ตรหัสเวลาหน้าจอของบุตรหลานของคุณโดยใช้ Face ID หรือ Touch ID
  • แก้ไขปัญหาที่ทำให้เฟรมอ้างอิงที่คมชัดที่สุดไม่ได้ถูกเลือกอยู่เสมอในรูปภาพจากกล้องด้านหน้าบน iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR
  • แก้ไขปัญหาที่ทำให้หลายข้อความถูกผสานรวมกันเป็นการสนทนาเดียวเมื่อผู้ใช้สองคนลงชื่อเข้าด้วย Apple ID เดียวกันบน iPhone หลายเครื่อง
  • จัดการปัญหาที่ทำให้วอยซ์เมลบางข้อความไม่แสดงขึ้นในแอพโทรศัพท์
  • แก้ไขปัญหาในแอพโทรศัพท์ที่อาจทำให้เบอร์โทรศัพท์แสดงขึ้นโดยที่ไม่มีชื่อผู้ติดต่อของเบอร์โทรศัพท์นั้น
  • แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้เวลาหน้าจอไม่แจ้งบางเว็บไซต์ในรายงานกิจกรรม
  • จัดการปัญหาที่อาจทำให้ไม่สามารถเพิ่มหรือเอาสมาชิกครอบครัวออกจากการแชร์กันในครอบครัวได้
  • เพิ่มคุณสมบัติการจัดการประสิทธิภาพสำหรับ iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ปิดเครื่องโดยไม่คาดคิด รวมถึงตัวเลือกสำหรับปิดใช้งานคุณสมบัตินี้หากเกิดการปิดเครื่องโดยไม่คาดคิด
  • เพิ่มความสามารถให้กับสุขภาพแบตเตอรี่ในการแจ้งผู้ใช้ว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้ว่ามีแบตเตอรี่แท้จาก Apple อยู่ใน iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR หรือไม่
  • ปรับปรุงความน่าเชื่อถือของ VoiceOver ในแอพกล้อง, Siri และ Safari
  • แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้การลงทะเบียนอุปกรณ์ MDM แจ้งข้อผิดพลาดโปรไฟล์ไม่ถูกต้องสำหรับผู้ใช้ในองค์กรบางคน

ทั้งหมดนี้สามารถอัปเกรดได้พร้อมกันทั้ง iPhone, iPad, iPod Touch ในรุ่นดังนี้

  • iPhone
    • iPhone XS
    • iPhone XS Max
    • iPhone XR
    • iPhone X
    • iPhone 8
    • iPhone 8 Plus
    • iPhone 7
    • iPhone 7 Plus
    • iPhone 6s
    • iPhone 6s Plus
    • iPhone 6
    • iPhone 6 Plus
    • iPhone SE
    • iPhone 5s
  • iPad
    • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 2
    • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 1
    • iPad Pro รุ่น 5 นิ้ว
    • iPad Pro รุ่น 7 นิ้ว
    • iPad รุ่นที่ 6
    • iPad รุ่นที่ 5
    • iPad Air 2
    • iPad Air
    • iPad mini 4
    • iPad mini 3
    • iPad mini 2

หมายเหตุ iPad Pro 11 และ iPad Pro 12.9 รุ่นที่ 3 มาพร้อมกับ iOS 12.1 อยู่แล้ว

  • iPod Touch
    • iPod Touch Generation 6

วิธีการอัปเดตสามารถเข้าไปได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > General (ทั่วไป) > Software Update (ซอฟต์แวร์ อัปเดต) จากมือถือหรือ iPad ของคุณ

ที่มา: ios.gadgethacks.com, www.phonearena.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
แอปเปิลเตรียมปล่อย iOS 18.4 ให้ผู้ใช้ในสหภาพยุโรปเลือกแอปแผนที่และแปลภาษาเริ่มต้นได้
คาด “AirPods Pro 2” จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2022
เตรียมพบกับ “AirPods Pro รุ่นใหม่” ที่อาจมาพร้อมสีให้เลือกมากถึง 8 สี

Leave Your Reply

*