News

AI จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลกและในประเทศไทยไปอย่างไร

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) หรือเอไอ เป็นคำพูดติดปากของใครหลายๆ คนที่งานจัดแสดงเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย​ Mobile World Congress 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน

ขณะที่ประเด็นเสวนาในปีก่อนนั้นมุ่งเน้นไปที่เรื่อง 5G เป็นหลัก สาระสำคัญของงานในปีนี้ (ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 – 29 กุมภาพันธ์) กลับอัดแน่นไปด้วยหัวข้อเสวนาและความเคลื่อนไหวสำคัญเกี่ยวกับเอไอ ทำให้ดูเหมือนว่าเส้นแบ่งระหว่างอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและโทรคมนาคมนั้นกำลังค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ

ในงานผมได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้นำจากภาครัฐและตัวแทนภาคอุตสาหกรรมหลายท่าน ก่อนจะเดินทางกลับมายังประเทศไทยด้วยความเชื่อมั่นว่าเอไอจะเป็นประตูแห่งโอกาสสำหรับเราทุกคนในการรับมือกับความท้าทายทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ และนี่คือสามประเด็นที่ผมมองว่าเราควรให้ความสำคัญ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากศักยภาพของเอไอและก้าวไปแข่งขันอย่างทัดเทียมบนเวทีโลก

จริยธรรมปัญญาประดิษฐ์

ท่ามกลางกระแสร้อนแรงของเอไอ บ่อยครั้งเราได้ยินข้อถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์และการใช้งานเอไออย่างมีความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน เริ่มมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องถึงมาตรการกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ให้มีความโปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งบริษัท Microsoft ได้ใช้เวทีโมบายล์ เวิลด์ คองเกรสในปีนี้ ในการประกาศแนวทางปฏิบัติด้านธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ พร้อมชูความร่วมมือกับสตาร์ทอัพสัญชาติฝรั่งเศส Mistral ในฐานะพันธมิตรหลักด้านเอไอรายที่สองถัดจาก OpenAI นับเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงโมเดลปัญญาประดิษฐ์ของไมโครซอฟท์ได้เป็นวงกว้างยิ่งขึ้น

ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นองค์กรไทยขนาดใหญ่แห่งแรกที่มีการประกาศใช้จริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการด้านธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ (AI Governance Committee) ซึ่งจะทำหน้าที่ตรวจสอบโครงการด้านเอไอสำคัญๆ ของทรูทั้งหมด ความพยายามเหล่านี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมการใช้งานเอไออย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าของเราว่าทรูนั้นเคารพต่อความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยเราเดินหน้าทำงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งจากภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้จริยธรรมปัญญาประดิษฐ์นั้นกลายเป็นบรรทัดฐานของประเทศไทย

อีกประเด็นหนึ่งซึ่งยึดโยงกับเรื่องจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์และมีความร้อนแรงไม่แพ้กัน ก็คือประเด็นด้านสภาพภูมิอากาศ ในวันที่สามของงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส สมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) ได้เปิดเผยรายงาน Net Zero Report ซึ่งระบุว่าอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในโครงข่ายของผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลกนั้นลดลง 6% ในระหว่างปี 2562 ถึงปี 2565 แม้ว่าการใช้งานอินเตอร์เน็ตจะเติบโตกว่า 2 เท่าก็ตาม อย่างไรก็ดี การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเอไอก็นำไปสู่คำถามที่ว่า ความต้องการใช้พลังงานมหาศาลของเอไอในการประมวลผลจะทำให้ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมานี้สูญเปล่าหรือไม่

ในด้านดี เทคโนโลยีเอไอมีศักยภาพช่วยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อันถือเป็นอีกวาระเร่งด่วนสำหรับประเทศไทย บนเวทีโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ผมในฐานะตัวแทนของ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้บอกเล่าเกี่ยวกับโซลูชันเอไอที่เราพัฒนาขึ้นเองภายในองค์กรเพื่อช่วยลดการใช้พลังงานในโครงข่ายของเรา ที่ผ่านมา โซลูชันดังกล่าวทำให้เราสามารถลดการใช้พลังงานในโครงข่ายลง 15% นี่นับเป็นอีกก้าวสำคัญสำหรับทรู ภายใต้เจตนารมณ์ในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน​ภายในปี 2573

ความเร็วอาจไม่สำคัญเท่าความพร้อม

ท่ามกลางกระแสความตื่นเต้นเรื่องเอไอ ถึงเวลาที่ผู้นำอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องย้อนกลับมาประเมินถึงความพร้อมและเร่งจัดการกับความท้าทายด้านดิจิทัลภายในองค์กร เช่น การยกระดับทักษะดิจิทัลของพนักงาน การนำข้อมูล (data) มาร่วมขับเคลื่อนการตัดสินใจของผู้บริหารในระดับ C-suite การดึงดูดและรักษาบุคลากรดิจิทัล (digital talent) ไว้ ไปจนถึงการสร้างความแข็งแกร่งของกลไกการปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

เทเลนอร์ ในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคมระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศนอร์เวย์ และเป็นผู้ถือหุ้นร่วมของทรู คอร์ปอเรชั่น ได้จัดเวทีเสวนาร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมจากภูมิภาคเอเชียจำนวนสามราย ซึ่งล้วนเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดและมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในประเทศของตน โดย ยาซีร์ อัซมาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Grameenphone (บังกลาเทศ) อิดดัม นาวาวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Celcom Digi (มาเลเซีย) และตัวผมเอง ได้ร่วมกันหารือถึงความจำเป็นเร่งด่วนขององค์กรธุรกิจในภูมิภาคเอเชียในการจัดการกับความท้าทายด้านดิจิทัล ก่อนที่จะนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้งานในองค์กร

ที่ทรู คอร์ปอเรชั่น เรามีแผนสร้างบุคลากรของเราจำนวน 2,400 คนให้เป็น digital citizen ภายในปี 2567 โดยหัวใจความสำเร็จของเราคือการตั้งเป้าหมายที่สามารถวัดผลได้จริง เช่น การนำระบบออโตเมชันมาใช้กับงานพื้นฐานประจำวันที่มีกฎชัดเจนให้ได้ 100% ภายในปี 2570 และเพื่อติดปีกธุรกิจไทยให้เติบโตสู่ยุคเอไออย่างแข็งแกร่ง ทรูยังได้สร้างระบบนิเวศโซลูชันและบริการเพื่อรองรับการใช้งานเอไอ นับตั้งแต่ Open API ไปจนถึงแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล และหลักสูตรด้านดิจิทัลจาก True Digital Academy

จากสถานีฐานสู่ดาต้าเซ็นเตอร์

ในยามที่ประเด็นสนทนาหลักในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส นั้นแปรเปลี่ยนจากเรื่อง 5G ไปสู่ปัญญาประดิษฐ์​ ในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานเอง ดูเหมือนว่าสีสันของงานในปีนี้จะไม่ได้อยู่ที่อุปกรณ์ส่งสัญญาณ 5G รุ่นล่าสุดที่ถูกนำไปติดตั้งบนสถานีฐานอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของด้าตาเซ็นเตอร์ (data center) ​และความสามารถในการประมวลผล

ประจวบเหมาะกับที่เมื่อเร็วๆ นี้ ตัวแทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ได้ร่วมหารือกับผู้บริหารบริษัท Huawei เกี่ยวกับการลงทุนในคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ อีกทั้งก่อนหน้านี้ ทางรัฐบาลไทยได้ประกาศความร่วมมือขยายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานกับบริษัท Google และไมโครซอฟท์

แต่การก้าวไปเป็นศูนย์กลางด้านปัญญาประดิษฐ์และดาต้าเซ็นเตอร์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นยังคงเป็นหนทางอีกยาวไกลสำหรับประเทศไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (K-Research) คาดว่าการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยจะมีมูลค่ากว่า 7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในระหว่างปี 2567 – 2570 แต่ยังเป็นรองมาเลเซียที่จะมีมูลค่าการลงทุนสูงกว่าไทยราว 3 เท่า โดยหนึ่งในอุปสรรคสำคัญคือการขาดแคลนแหล่งพลังงานสะอาด

ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่าปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามาเป็นตัวเร่งสำคัญที่นำไปสู่การทลายเส้นแบ่งระหว่างอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและเทคโนโลยี เมื่อไม่นานมานี้ เทเลนอร์ได้ประกาศพันธมิตรกับ NVIDIA เพื่อร่วมลงทุนประมาณ 9.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงสร้างพื้นฐาน อันจะทำให้เทเลนอร์สามารถเข้าถึงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เอไอสำหรับธุรกิจที่ทันสมัยที่สุดของเอ็นวิเดีย โดยมีเป้าหมายคือการสร้าง use case ปัญญาประดิษฐ์ในประเทศนอร์เวย์เป็นที่แรก ก่อนจะขยายไปสู่ประเทศอื่นๆ ใน ภูมิภาคนอร์ดิก

ที่ทรู เราเชื่อเช่นเดียวกันว่าโครงข่ายอัจฉริยะนั้นเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถส่งมอบประสบการณ์ใช้งานเครือข่ายที่เหนือกว่าสำหรับลูกค้าของเรา โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราได้เปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ (Business and Network Intelligence Center: BNIC) พร้อมปัญญาประดิษฐ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเชื่อมั่นเครือข่าย 5G, 4G และอินเทอร์เน็ตบ้าน และส่งมอบบริการวอยซ์และดาต้าความเร็วสูง สำหรับลูกค้าจำนวนกว่า 50 ล้านคนทั่วประเทศของเรา นอกจากนั้นแล้ว โครงข่ายอัจฉริยะยังจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเราอีกด้วย

ประเด็นเสวนาหลักของงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ในไปนี้ ทำให้เราเห็นถึงศักยภาพของเอไอในการส่งมอบเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ซึ่งทรูนั้นมีเจตนารมณ์ในการนำศักยภาพของเอไอมาสร้างสรรค์โซลูชันสำหรับสังคมไทย ให้พร้อมรับมือกับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ช่องว่างด้านทักษะ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเติบโตและก้าวไปแข่งขันได้อย่างสง่างามบนเวทีโลก

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
Apple เปิดตัว “iPad Pro ใหม่” พร้อมด้วยจอภาพที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก, ชิป M4 และ Apple Pencil Pro 
ชมภาพเรนเดอร์ Mac mini ชิป M1X ใหม่ ดีไซน์ทรงเหลี่ยมบางกว่าเดิม
หลุดภาพ “Samsung Galaxy Buds Pro” รุ่นใหม่ก่อนเปิดตัว

Leave Your Reply

*