บริษัทซัมซุงได้จัดการประชุมรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 เมื่อวันที่ผ่านมา โดยมีการตอบคำถามจากนักวิเคราะห์ ในการประชุมดังกล่าว
ผู้บริหารของบริษัทได้ยืนยันการพัฒนาชิปประมวลผล Exynos 2500 และเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการอัปเกรดสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy S25 ที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคต
“นายแดเนียล อาราอูโจ” รองประธานฝ่าย MX ของซัมซุง ได้กล่าวว่า “สำหรับสเปกกล้องและจอแสดงผลโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นจุดแข็งของเรา Galaxy S25 จะมาพร้อมกับการอัปเกรดระดับสูงสุดเมื่อเปิดตัว นอกจากนี้ เรายังเตรียมชิปประมวลผลและหน่วยความจำที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้าน AI และมอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมโดยรวม”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุชัดเจนว่าการอัปเกรดดังกล่าวจะมีในทุกรุ่นของ Galaxy S25 ซีรีส์ หรือเฉพาะรุ่น Ultra เท่านั้น มีข้อมูลไม่เป็นทางการระบุว่า Galaxy S25 Ultra อาจได้รับการอัปเกรดเป็นกล้อง 50MP ซูม 3 เท่า และกล้องมุมกว้าง 50MP ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10MP และ 12MP ใน Samsung Galaxy S24 Ultra ตามลำดับ ทำให้สอดคล้องกับกล้องเพอริสโคป 50MP ซูม 5 เท่าตัวใหม่มากขึ้น ในขณะที่ Galaxy S25 และ Galaxy S25+ อาจไม่ได้รับการอัปเกรดในส่วนนี้
ด้านชิปประมวลผล คาดว่าบางรุ่นจะใช้ Snapdragon 8 Gen 4 และหากโรงงานผลิตชิปของซัมซุงสามารถเพิ่มผลผลิตได้เพียงพอ ก็จะมีบางรุ่นที่ใช้ Exynos 2500 ด้วย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าอาจมีการใช้ชิปเซ็ตจาก MediaTek ในบางรุ่น ทั้งนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ารุ่นใดจะใช้ชิปเซ็ตใดในตลาดไหน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีการใช้ชิป Snapdragon เพียงอย่างเดียวเหมือนในรุ่น S23
มีการคาดการณ์ว่า Samsung Galaxy S25 Ultra จะมาพร้อมกับ RAM 16GB แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีในอีกสองรุ่นหรือไม่ โดย S24 รุ่นเล็กยังคงมี RAM เพียง 8GB ส่วน Galaxy S25 รุ่นเล็กอาจมีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.36 นิ้ว เพิ่มขึ้นจาก 6.2 นิ้วและ 6.1 นิ้วในสองรุ่นก่อนหน้า ยังไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับการอัปเกรดหน้าจอ แต่มีความเป็นไปได้ว่ารุ่นธรรมดาและรุ่นพลัสอาจได้ใช้ Gorilla Glass Armor เช่นเดียวกับ S24 Ultra ซึ่งช่วยลดการสะท้อนแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายอาราอูโจยังได้กล่าวถึงระบบ AI ว่า “เรากำลังขยายระบบนิเวศ Galaxy AI ไปสู่อุปกรณ์อื่นๆ นอกเหนือจากสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทวอทช์ หูฟัง แหวนอัจฉริยะ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ Galaxy Book รวมถึงระบบปฏิบัติการ แอปพลิเคชัน และบริการต่างๆ ของเรา ระบบ AI แบบไฮบริดของ Galaxy จะใช้ประโยชน์จากทั้ง AI บนอุปกรณ์เพื่อการใช้งานที่รวดเร็วและเสถียร และ AI บนคลาวด์เพื่อผลลัพธ์คุณภาพสูง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ พร้อมทั้งมีความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง รวมถึงการปกป้องข้อมูลลูกค้าและข้อมูลส่วนบุคคลผ่านระบบ Knox”
ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของซัมซุงในการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นถัดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านกล้อง จอแสดงผล ประสิทธิภาพการประมวลผล และความสามารถด้าน AI ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น
อ้างอิง – GSMArena, wccftech.com
