เสียวหมี่ คอร์เปอเรชัน บริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567
โดยมีรายรับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 88.9 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกันที่บริษัทมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
กำไรสุทธิที่ปรับแล้วอยู่ที่ 6.2 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 20.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมยังคงแข็งแกร่งที่ 20.7% ธุรกิจหลักทั้งสามของเสียวหมี่ ได้แก่ สมาร์ทโฟน ผลิตภัณฑ์ IoT และไลฟ์สไตล์ และบริการอินเทอร์เน็ต มีรายรับ 46.5 พันล้านหยวน 26.8 พันล้านหยวน และ 8.3 พันล้านหยวน ตามลำดับ
ในด้านธุรกิจสมาร์ทโฟน เสียวหมี่ยังคงรักษาตำแหน่งหนึ่งในสามแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำทั่วโลกได้ติดต่อกัน 16 ไตรมาส โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 14.6% และมีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในแบรนด์สมาร์ทโฟน 5 อันดับแรกของโลก
ธุรกิจผลิตภัณฑ์ IoT และไลฟ์สไตล์ของเสียวหมี่มีรายรับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 26.8 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 20.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะขนาดใหญ่ภายในบ้าน ซึ่งมีรายรับเพิ่มขึ้น 38.7%
บริการอินเทอร์เน็ตของเสียวหมี่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายรับเพิ่มขึ้น 11% แตะระดับสูงสุดที่ 8.3 พันล้านหยวน และมีจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนทั่วโลกเพิ่มขึ้น 11.5% เป็น 675.8 ล้านคน
นอกจากนี้ ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะของเสียวหมี่ก็มีการเติบโตเกินความคาดหมาย โดยส่งมอบรถยนต์ Xiaomi SU7 Series ได้ 27,307 คันในไตรมาส 2 และตั้งเป้าหมายที่จะส่งมอบรถยนต์ 120,000 คันภายในปี 2567
เสียวหมี่ยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทคโนโลยี AI เพื่อพัฒนาระบบนิเวศอัจฉริยะ “Human x Car x Home” ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัท และสนับสนุนการเติบโตในตลาดระดับพรีเมียม
ด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่งและการลงทุนอย่างต่อเนื่องในนวัตกรรม เสียวหมี่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมั่นคงและศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก
Source (post on X.com)