บริษัทแอปเปิลกำลังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการในเดือนกันยายนนี้ โดยเฉพาะ iPhone 16 Pro และ iPhone 16
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจะเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า เมื่อ iPhone 17 Air เข้าร่วมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท จุดเด่นหลักของ iPhone 17 Air คือการออกแบบใหม่ที่บางเป็นพิเศษ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในรุ่นก่อนหน้า
ในงานเปิดตัววันที่ 9 กันยายนที่จะถึงนี้ คาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPhone 4 รุ่น ได้แก่ iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max รูปแบบนี้เป็นมาตรฐานตั้งแต่รุ่น Plus มาแทนที่รุ่น Mini ในปี 2565 แต่ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2568 รุ่น Plus จะถูกแทนที่ด้วย iPhone 17 Air
แม้ว่า iPhone 17 Air จะไม่ได้บางเท่ากับสมาร์ทโฟนในภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ที่บางราวกับแผ่นกระดาษ แต่มีข้อบ่งชี้ว่าจะบางกว่ารุ่นปัจจุบันอย่างมาก โดยอ้างอิงจากอุปกรณ์ปัจจุบันของแอปเปิล พอร์ต USB-C บน iPhone 15 และ 15 Pro ให้แนวคิดเกี่ยวกับความบางขั้นต่ำที่เป็นไปได้ นอกจากนี้ iPad Pro M4 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่บางที่สุดของแอปเปิล โดยมีความหนาเพียง 5.1 มิลลิเมตรสำหรับรุ่น 13 นิ้ว ก็เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญ
เมื่อเปรียบเทียบความหนา iPad Pro 13 นิ้วมีความหนา 5.1 มิลลิเมตร ในขณะที่ iPhone 15 มีความหนา 7.8 มิลลิเมตร และ iPhone 15 Pro หนา 8.25 มิลลิเมตร คาดการณ์ว่า iPhone 17 Air จะมีความหนาใกล้เคียงกับ iPad Pro อาจจะอยู่ที่ประมาณ 5.1-5.3 มิลลิเมตร หรือไม่เกิน 6 มิลลิเมตร ซึ่งจะถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านการออกแบบสมาร์ทโฟนที่บางเฉียบ
นอกจากความบางแล้ว มีการคาดการณ์ว่า iPhone 17 Air อาจมีระบบกล้องที่ไม่ซับซ้อนเท่ารุ่น 17 Pro และชิปประมวลผลอาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีราคาสูงกว่ารุ่นมาตรฐาน
แม้ว่าความบางเฉียบนี้อาจไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ทุกคน แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนวัตกรรมด้านการออกแบบ iPhone 17 Air น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ทั้งนี้ ข้อมูลทั้งหมดยังเป็นเพียงการคาดการณ์ ผู้สนใจควรติดตามข่าวสารอย่างเป็นทางการจากแอปเปิลต่อไป การเปิดตัว iPhone 17 Air อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวงการสมาร์ทโฟน และอาจกำหนดทิศทางการออกแบบอุปกรณ์พกพาในอนาคต
Tag: 9to5Mac
