บริษัท Infinix ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนระดับโลกที่มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ZERO 40 5G ในประเทศไทย
โดยมีจุดเด่นสำคัญคือการยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอให้สมบูรณ์แบบ พร้อมตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียและการถ่าย Vlog
ประสิทธิภาพกล้องที่เหนือชั้น
ZERO 40 5G มาพร้อมกับระบบกล้องที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยกล้องหน้ามีความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอระดับ Ultra-HD 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที นับเป็นครั้งแรกในวงการสมาร์ทโฟนที่กล้องหน้าสามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงเช่นนี้ได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบกันสั่น OIS+EIS ProStable video ที่ช่วยให้การถ่ายภาพและวิดีโอมีความเสถียรสูง แม้ในสภาวะที่มีการเคลื่อนไหวมาก
ส่วนกล้องหลังของ ZERO 40 5G ก็ไม่น้อยหน้า ด้วยความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น OIS ที่ช่วยให้ภาพถ่ายคมชัดในทุกสภาวะแสง และยังมีเลนส์มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟน Infinix ที่ใช้เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียดสูงขนาดนี้ ช่วยให้การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์หรือภาพกลุ่มทำได้อย่างกว้างขวางและคมชัด
โหมดการถ่ายภาพและวิดีโอที่หลากหลาย
ZERO 40 5G มาพร้อมกับโหมดการถ่ายภาพและวิดีโอที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้ โดยเฉพาะ Vlog Mode ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การสร้าง Vlog เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญ โดยมีคำแนะนำและเทมเพลตให้เลือกใช้ พร้อมระบบ AI ที่ช่วยค้นหาภาพถ่ายและวิดีโอไฮไลท์โดยอัตโนมัติเพื่อสร้าง Vlog ที่น่าสนใจ
นอกจากนี้ ยังมีโหมด GoPro ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการสมาร์ทโฟน โดยสามารถเชื่อมต่อและควบคุมกล้อง GoPro ผ่านสมาร์ทโฟนได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถปรับพารามิเตอร์ต่างๆ ของกล้อง GoPro เช่น ISO ความเร็วชัตเตอร์ โหมดโฟกัส ฯลฯ ผ่าน ZERO 40 5G ได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งใช้สมาร์ทโฟนเป็นจอแสดงผลและตัดต่อวิดีโอเพื่อแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้แบบเรียลไทม์
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแบบครีเอทีฟ ZERO 40 5G มีโหมดพิเศษสำหรับการถ่ายภาพ Long Exposure ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่มีเอฟเฟกต์พิเศษได้ง่ายๆ เช่น ภาพแสงไฟยามค่ำคืน หรือภาพน้ำตกที่ดูนุ่มนวล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การปรับแต่งภาพด้วย AI ที่ช่วยเพิ่มสีสันและคงรายละเอียดของภาพแม้ถ่ายในสภาพย้อนแสง
การออกแบบที่ล้ำสมัย
ด้านการออกแบบ ZERO 40 5G ได้รับการพัฒนาร่วมกับ WGSN (World Global Style Network) ผู้นำด้านการคาดการณ์เทรนด์ระดับโลก โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Violet Garden, Moving Titanium และ Rock Black ซึ่งเป็นโทนสีที่คาดว่าจะเป็นเทรนด์ในปี 2025
ตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเพียง 195 กรัม และบางเพียง 7.9 มิลลิเมตร ทำให้จับถนัดมือและพกพาสะดวก ด้านหลังของตัวเครื่องออกแบบภายใต้แนวคิด “Storyline” ที่สร้างความแตกต่างของพื้นผิวแม้จะเป็นโทนสีเดียวกัน สื่อถึงความสมบูรณ์แบบและความสุนทรีย์ของชีวิต
หน้าจอของ ZERO 40 5G เป็นหน้าจอโค้ง 3 มิติขนาด 6.78 นิ้ว มีความโค้ง 55 องศา ช่วยมอบประสบการณ์การรับชมที่เต็มอิ่มและดื่มด่ำ พร้อมอัตราการรีเฟรชสูงถึง 144Hz และอัตราการตอบสนองการสัมผัสในเกมที่ 1500Hz ช่วยให้การเล่นเกมและการใช้งานทั่วไปลื่นไหลและตอบสนองรวดเร็ว
ประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่โดดเด่น
ZERO 40 5G ใช้ชิปประมวลผล D8200 Ultimate 5G ที่มีประสิทธิภาพสูง รองรับ RAM สูงสุด 24GB (รวม RAM ขยาย) และมีพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 512GB ทำให้รองรับการใช้งานที่หลากหลายและการจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างเพียงพอ
แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน พร้อมรองรับการชาร์จเร็วแบบมีสาย 45W ที่สามารถชาร์จได้ 60% ในเวลาเพียง 25 นาที และยังรองรับการชาร์จเร็วแบบไร้สาย 20W อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Extreme-Temp ที่ช่วยให้สามารถชาร์จได้แม้ในอุณหภูมิต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส
ZERO 40 5G ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับการทำงานร่วมกับ Google Gemini ซึ่งเป็น AI รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Google พร้อมฟีเจอร์ AI ที่หลากหลาย เช่น การสร้างวอลเปเปอร์ส่วนตัว การลดเสียงรบกวนด้วย AI ในขณะโทรศัพท์ และการปรับแต่งเสียงร่วมกับ JBL เพื่อประสบการณ์เสียงที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น Always On Display ที่แสดงข้อมูลสำคัญแม้ในขณะที่หน้าจอปิดอยู่ ฟังก์ชัน IR รีโมทคอนโทรลสำหรับควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะในบ้าน และกระเป๋าเงิน NFC สำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส
ราคาและโปรโมชั่น Infinix ZERO 40 5G
Infinix ZERO 40 5G วางจำหน่ายในราคา 14,999 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับช่วงเปิดตัว โดยลดราคาทันที 3,000 บาท และแถมฟรี Wireless Lavalier Microphone มูลค่า 999 บาท ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสำหรับการถ่าย Vlog และการสร้างคอนเทนต์วิดีโอ
ZERO 40 5G จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ผ่านช่องทางออนไลน์ชั้นนำ ได้แก่ Shopee, Lazada และ TikTok Shop
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและโปรโมชั่นพิเศษอื่นๆ ได้ที่เฟซบุ๊กเพจ Infinix Mobile Thailand
ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งด้านกล้อง ประสิทธิภาพ และการออกแบบ ZERO 40 5G จึงเป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ทั้งการทำงานและความบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ การสร้างคอนเทนต์ และการแชร์เรื่องราวผ่านโซเชียลมีเดีย