Apple TV+ ตัดสินใจลดทอนแผนการฉายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์อย่างกว้างขวาง หลังจากที่ภาพยนตร์งบประมาณสูงหลายเรื่องไม่สามารถทำรายได้ได้ตามที่คาดหวัง ส่งผลให้บริษัทต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่
Apple เคยตั้งงบประมาณกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีเพื่อผลิตภาพยนตร์งบประมาณสูงสำหรับฉายในโรงภาพยนตร์ โดยมีเป้าหมายที่จะแข่งขันกับสตูดิโอภาพยนตร์ดั้งเดิม บริษัทหวังที่จะสร้างภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่สามารถสร้างรายได้จากการขายตั๋ว คว้ารางวัลชั้นนำ และยกระดับชื่อเสียงในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
ภาพยนตร์อย่าง “Killers of the Flower Moon” ผลงานกำกับโดย มาร์ติน สกอร์เซซี, “Napoleon” โดย ริดลีย์ สก็อตต์ และ “Argylle” โดย แมทธิว วอห์น ถูกคาดหวังว่าจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในด้านรายได้ แต่กลับสร้างความผิดหวังให้กับบริษัท ส่งผลให้ Apple ต้องปรับเปลี่ยนแผนการโดยมุ่งเน้นการฉายในโรงภาพยนตร์แบบจำกัดเพื่อให้มีคุณสมบัติเข้าชิงรางวัล และทำการตลาดภาพยนตร์เหล่านี้เป็นหลักในฐานะคอนเทนต์สตรีมมิ่ง
การยกเลิกแผนการฉายภาพยนตร์เรื่อง “Wolfs” ซึ่งนำแสดงโดย จอร์จ คลูนีย์ และ แบรด พิตต์ ในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกเป็นสัญญาณสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แทนที่จะฉายในโรงภาพยนตร์หลายพันแห่งทั่วโลกตามแผนเดิม ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกฉายในโรงภาพยนตร์จำนวนจำกัดก่อนที่จะเปิดให้รับชมผ่านบริการสตรีมมิ่ง Apple TV+ ในวันที่ 27 กันยายน
รายงานระบุว่าผู้บริหารของ Apple กำลังพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายในแผนกบันเทิงของบริษัท แม้ว่าบริษัทจะยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้งบประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีสำหรับการผลิตภาพยนตร์ แต่จะเน้นผลิตภาพยนตร์งบประมาณสูงน้อยลง ลดจำนวนการฉายในโรงภาพยนตร์ และลดต้นทุนการผลิตเฉลี่ยของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับแผนของบริษัทเปิดเผยว่า Apple จะยังคงผลิตภาพยนตร์ประมาณ 12 เรื่องต่อปี โดยส่วนใหญ่จะมีงบประมาณไม่เกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม Apple ยังคงวางแผนที่จะผลิตภาพยนตร์ขนาดใหญ่ 1-2 เรื่องต่อปีที่จะได้รับงบประมาณสูงและฉายในโรงภาพยนตร์อย่างกว้างขวาง เช่น ภาพยนตร์เรื่อง “F1” ที่นำแสดงโดย แบรด พิตต์ ซึ่งมีกำหนดฉายทั่วโลกในเดือนมิถุนายน 2025 โดยคาดว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่มีงบประมาณการผลิตสูงที่สุดของ Apple ด้วยงบประมาณกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ Apple กำลังเผชิญในการแข่งขันกับสตูดิโอภาพยนตร์ดั้งเดิม และการพยายามหาสมดุลระหว่างการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงกับการควบคุมต้นทุน ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาความน่าสนใจของบริการสตรีมมิ่ง Apple TV+ เพื่อดึงดูดผู้ชมในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
อ้างอิง | Macrumors.com
