Apple เปิดตัวฟีเจอร์ Photographic Styles บน iPhone 16 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งภาพถ่ายได้ละเอียดและหลากหลายมากขึ้น โดยมีตัวเลือกสไตล์ภาพใหม่ๆ พร้อมการควบคุมที่ละเอียดยิ่งขึ้น
Photographic Styles เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งลุคของภาพถ่ายได้อย่างละเอียด โดยไม่จำเป็นต้องใช้ฟิลเตอร์ทั่วไป ฟีเจอร์นี้ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นใน iPhone 16 โดยเพิ่มตัวเลือกสไตล์ภาพใหม่ๆ จากเดิมที่มีเพียง 4 ตัวเลือก ได้แก่ Rich Contrast, Vibrant, Warm และ Cool
สำหรับ iPhone 16 นั้น มีสไตล์ภาพใหม่เพิ่มเติมมากมาย เช่น Cool Rose, Neutral, Rose Gold, Gold, Amber, Luminous, Dramatic, Quiet, Cozy, Ethereal และ Muted Black and White เป็นต้น แต่ละสไตล์มีการปรับแต่งค่า Tone, Color และ Palette ที่แตกต่างกันไป ซึ่งส่งผลต่อความสว่าง ความอิ่มตัวของสี และความเข้มของเอฟเฟกต์
Apple อธิบายว่า Photographic Styles ใน iPhone 16 สามารถปรับแต่งสีเฉพาะในบางส่วนของภาพ เพื่อปรับลุคโดยรวมของภาพถ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 5 สไตล์แรกถูกออกแบบมาเพื่อเน้นโทนสีผิว ได้แก่ Cool Rose, Neutral, Amber, Rose Gold และ Gold ซึ่งแต่ละสไตล์จะเน้นโทนสีผิวที่แตกต่างกันไป
การตั้งค่าและปรับแต่ง Photographic Styles สามารถทำได้ผ่านเมนู Settings > Camera > Photographic Styles หลังจากถ่ายภาพอย่างน้อย 4 ภาพ ผู้ใช้สามารถเลือกโทนพื้นฐานที่ต้องการใช้กับภาพถ่ายทั้งหมด และปรับแต่งความเข้มของเอฟเฟกต์ได้ตามต้องการ
นอกจากนี้ iPhone 16 ยังมีฟีเจอร์ Real-Time Previews ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูตัวอย่างภาพพร้อมเอฟเฟกต์ต่างๆ ก่อนถ่ายภาพจริง โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านไอคอน Touchpad ในแอพกล้อง
ที่น่าสนใจคือ iPhone 16 เป็นรุ่นแรกที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง Photographic Styles หลังจากถ่ายภาพแล้ว โดยสามารถทำได้ผ่านแอพ Photos โดยการแตะที่ไอคอนแก้ไข และเลือก Styles จากนั้นสามารถปรับแต่ง Tone, Color และ Palette ได้ตามต้องการ
อย่างไรก็ตาม การใช้งาน Photographic Styles จำเป็นต้องตั้งค่าให้กล้องบันทึกภาพในรูปแบบ HEIF (High Efficiency Image Format) เท่านั้น หากตั้งค่าเป็น JPG จะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งาน HEIF ได้ที่ Settings > Camera > Formats และเลือก “High Efficiency”
Photographic Styles เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone 16 สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องใช้แอพแต่งภาพเพิ่มเติม นับเป็นการยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนให้ใกล้เคียงกับกล้องมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
อ้างอิง | Macrumors.com