แคนนอน เปิดตัวกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นเรือธง EOS R1 รุ่นแรกในซีรีส์ EOS R มาพร้อมเทคโนโลยีระบบโฟกัสอัตโนมัติอัจฉริยะ Action Priority AF และความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 40 เฟรมต่อวินาที ตอบโจทย์การใช้งานของช่างภาพมืออาชีพ
แคนนอน ผู้นำด้านเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งระดับโลก ได้จัดงานเปิดตัวกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นเรือธง EOS R1 พร้อมจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้ทดลองใช้งานกล้องและเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ในการถ่ายภาพการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 1 ระหว่างทีมนครปฐม ยูไนเต็ด พบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 ณ สนามโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม
EOS R1 มาพร้อมเซนเซอร์ CMOS แบบ back-illuminated (BSI) ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล ที่สามารถเพิ่มความละเอียดภาพได้ในตัวกล้องสูงสุดถึง 96 ล้านพิกเซล ด้วยเทคโนโลยี In-Camera Upscaling นวัตกรรมใหม่นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับแสงและการอ่านค่าข้อมูลภาพที่รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังติดตั้งชิปประมวลผลภาพรุ่นใหม่ DIGIC Accelerator ควบคู่กับ DIGIC X เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลภาพ พร้อมระบบลดสัญญาณรบกวนภาพด้วยเทคโนโลยี Neural Network
ไฮไลท์สำคัญของกล้องรุ่นนี้คือระบบโฟกัสอัตโนมัติอัจฉริยะ Action Priority AF ที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพกีฬาโดยเฉพาะ สามารถตรวจจับและวิเคราะห์ท่าทางการเคลื่อนไหวของนักกีฬา เช่น การยิงประตู การส่งบอล และการโหม่งลูก ได้อย่างแม่นยำ ด้วยระบบ Dual Pixel Intelligent AF ที่ทำงานร่วมกับระบบโฟกัสแบบ Cross-type AF ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการตรวจจับวัตถุขนาดเล็กและวัตถุที่มีลวดลายซับซ้อน
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้องแบบ 5 แกน (5-axis In-Body IS) ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่น EOS R3 โดยเมื่อใช้งานร่วมกับเลนส์เมาท์ RF ที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว จะให้ประสิทธิภาพสูงสุดถึง 8.5 สต็อป ช่วยให้ได้ภาพคมชัดแม้ถ่ายด้วยมือถือ
กล้องรุ่นนี้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 40 ภาพต่อวินาทีด้วยชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานเงียบ และ 12 ภาพต่อวินาทีด้วยชัตเตอร์แบบกลไก พร้อมฟังก์ชัน Pre-Continuous Shooting ที่บันทึกภาพล่วงหน้าได้สูงสุด 20 เฟรมก่อนกดชัตเตอร์ และบันทึกวิดีโอล่วงหน้าได้ 5 วินาที นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการถ่ายภาพแบบคู่ (Dual Shooting) ที่สามารถบันทึกวิดีโอ Full HD 60p และภาพนิ่งไฟล์ JPEG ความละเอียด 17.8 ล้านพิกเซล ในสัดส่วน 16:9 ได้พร้อมกัน
ด้านการควบคุมกล้อง EOS R1 มาพร้อมฟีเจอร์ Eye Control AF ที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยระบบออปติกตามแนวสายตาและอัลกอริทึมการตรวจจับวัตถุรูปแบบใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมกรอบโฟกัสผ่านดวงตาได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว พร้อมช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ความละเอียด 9.44 ล้านจุด กำลังขยาย 0.9 เท่า
สำหรับการบันทึกวิดีโอ EOS R1 รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 6K 60p RAW และ 4K 120p พร้อม Canon Log 2 และ 3 สำหรับการปรับแต่งสีในขั้นตอน Post-production และเป็นกล้องตระกูล EOS รุ่นแรกที่มีการตั้งค่าสีล่วงหน้าแบบกำหนดเอง (Custom Picture) เช่นเดียวกับกล้องถ่ายภาพยนตร์ตระกูล Cinema EOS
ด้านการเชื่อมต่อ EOS R1 รองรับ Wi-Fi 6/6E รูปแบบใหม่ เพิ่มเติมจากย่าน 5GHz และ 2.4GHz ที่มีอยู่เดิม พร้อม LAN ความเร็วสูง 2.5G Base-T สำหรับการส่งไฟล์ภาพและวิดีโอความเร็วสูง ตัวกล้องมีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ CFexpress Type-B จำนวน 2 ช่อง รองรับการบันทึกไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยความเร็วสูง
ตัวกล้องผลิตจากวัสดุแมกนีเซียมอัลลอยน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงทนทาน พร้อมซีลกันน้ำกันฝุ่นรอบตัว สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานร่วมกับแฟลช Speedlites โดยมีความเร็วในการซิงค์แฟลชสูงสุดที่ 1/400 วินาที เมื่อใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์
