Reviews-Previews Smartphone

รีวิว “Redmi Note 14 Pro+ 5G” เมื่อสมาร์ทโฟนระดับกลางพลิกโฉมด้วยกล้อง 200MP และความแกร่งระดับเรือธง! ในราคาที่เอื้อมถึง!

เมื่อพูดถึงสมาร์ตโฟนที่ทั้งแรงและแกร่งในต้นปี 2567 นี้ Redmi Note 14 Pro+ 5G คือคำตอบที่ชัดเจน! เสียวหมีจัดเต็มทุกฟีเจอร์ระดับเรือธงลงในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

ในยุคที่สมาร์ตโฟนเรือธงมีราคาพุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ จนบางทีทำให้หลายคนต้องคิดหนักก่อนควักกระเป๋า Redmi Note 14 Pro+ 5G กำลังจะมาพลิกโฉมวงการด้วยการนำฟีเจอร์ระดับเรือธงมาไว้ในสมาร์ทโฟนระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็นกล้อง AI 200MP ที่มาพร้อมความสามารถในการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ การชาร์จเร็ว HyperCharge 120W ที่ชาร์จเต็มได้ในพริบตา และความทนทานระดับ IP68 ที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์

มาดูกันว่าทำไม Redmi Note 14 Pro+ 5G ถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่แกร่งที่สุดในซีรีส์ Redmi Note และเหตุใดมันถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในต้นปีนี้!

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G
  • สาย USB Type-C To Type-A
  • อะแดปเตอร์จ่ายไฟ 120W
  • เคสซิลิโคน
  • เข็มนำถาดซิมออก
  • คู่มือและใบรับประกัน
แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมดีไซน์ที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและความทันสมัยได้อย่างลงตัว ด้วยความบางเพียง 8.75 มิลลิเมตร (สำหรับสี Frost Blue และ Midnight Black) และ 8.85 มิลลิเมตร (สำหรับสี Lavender Purple) ทำให้จับถนัดมือและพกพาสะดวก

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

หน้าจอระดับเรือธง สวยงามถนอมสายตา ด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K ที่ให้ความคมชัดระดับพรีเมียม ความสว่างสูงสุดถึง 3,000 นิต ทำให้ใช้งานกลางแจ้งได้สบายๆ แม้แดดจะจัด อัตรารีเฟรช 120Hz ทำให้การเลื่อนหน้าจอลื่นไหล ที่สำคัญคือการรับรองจาก TÜV Rheinland ทั้งด้าน Low Blue Light และ Flicker Free พร้อมเทคโนโลยี PWM Dimming 1920Hz ช่วยถนอมสายตาในการใช้งานระยะยาว

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

เหนือหน้าจอแสดงผลของ Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อม ดีไซน์จอเจาะรูขนาดเล็กกะทัดรัดตรงกลางด้านบนของหน้าจอ ที่แทบจะกลมกลืนไปกับการใช้งาน ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม หรือท่องโซเชียล ก็ไม่รู้สึกว่ารบกวนสายตา

ภายในรูเจาะนี้ซ่อนกล้องหน้าความละเอียด 20MP พร้อมรูรับแสง f/2.2 ที่ให้ภาพเซลฟี่สวยคมชัด สีสันสมจริง เหมาะกับการถ่ายภาพเซลฟี่หรือวิดีโอคอล และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือมาพร้อมความสามารถในการถ่ายภาพพอร์ตเรตด้วย AI ที่ช่วยให้ภาพเซลฟี่ของคุณดูโปรขึ้นอีกระดับ

เหนือหน้าจอแสดงผล คุณจะพบกับช่องลำโพงเล็กๆ ที่ออกแบบมาอย่างลงตัว นอกจากจะกลมกลืนกับดีไซน์แล้ว ยังทำงานร่วมกับลำโพงด้านล่างให้เสียงสเตอริโอคุณภาพสูง รองรับ Dolby Atmos ให้ประสบการณ์เสียงแบบรอบทิศทาง ไม่ว่าจะฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม ก็ได้อรรถรสเต็มที่

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

นอกจากนี้ ช่องลำโพงด้านบนยังทำหน้าที่เป็นลำโพงสนทนาในการโทรด้วย ให้เสียงสนทนาที่ชัดเจน แม้อยู่ในที่ที่มีเสียงรบกวน ทำให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องเงี่ยหูฟังเหมือนสมาร์ตโฟนทั่วไป

หน้าจอด้านล่างไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ สำหรับปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟต์แวร์ ตั้งค่าได้ตามความต้องการใช้งาน

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G
แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

ด้านล่างของตัวเครื่องเป็นลำโพงคุณภาพสูงที่ทำงานร่วมกับลำโพงด้านบนในระบบสเตอริโอ รองรับ Dolby Atmos และต่อมาในส่วนตรงกลางคือพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบต และรองรับการถ่ายโอนข้อมูล และปิดท้ายด้านขวาสุดด้วยถาดซิมการ์ดที่รองรับ Nano SIM แบบคู่

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

ด้านขวาของ Redmi Note 14 Pro+ 5G ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย ปุ่มกดทั้งหมดถูกจัดวางในตำแหน่งที่นิ้วเอื้อมถึงได้ง่าย โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนท่าการจับเครื่อง

ส่วนบนเป็นปุ่มปรับระดับเสียงแบบ 2-in-1 ที่ออกแบบมาให้ยาวพอเหมาะ สัมผัสได้ง่ายแม้ไม่ต้องมอง มีความแม่นยำในการกดสูง แยกส่วนการปรับเพิ่ม-ลดเสียงได้ชัดเจน แถมยังมีระยะการกดที่พอดี ให้ความรู้สึกหนึบและแม่นยำ ไม่ว่าจะปรับเสียงระหว่างดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ก็ทำได้อย่างแม่นยำ

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์ที่มีขนาดกำลังดี ไม่เล็กจนกดยาก ไม่ใหญ่จนเกะกะ ผิวสัมผัสที่มีลักษณะเฉพาะทำให้แยกแยะได้ง่ายจากปุ่มปรับเสียง สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งเปิด-ปิดเครื่อง และล็อคหน้าจอ โดยการตอบสนองของปุ่มให้ความรู้สึกหนึบ มั่นคง และมีคุณภาพสูง

ปุ่มกดทั้งหมดผลิตจากโลหะคุณภาพสูงเช่นเดียวกับกรอบตัวเครื่อง ให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน และมีคุณภาพสูง การกดแต่ละครั้งให้ความรู้สึกแม่นยำ มีการตอบสนองที่ชัดเจน ไม่มีเสียงดังรบกวน หรือความรู้สึกโยกคลอน

ด้านซ้ายของ Redmi Note 14 Pro+ 5G นั้นถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความประณีต ด้วยกรอบโลหะที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างหน้าจอโค้งและฝาหลังกระจกเข้าด้วยกัน แม้จะไม่มีปุ่มกดหรือช่องเสียบใดๆ แต่กลับให้ความรู้สึกลงตัวและสมดุลกับการจับถือ

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

ต้องบอกว่าการสัมผัสฝาหลังของ Redmi Note 14 Pro+ 5G เป็นอะไรที่ต้องลองเองถึงจะเข้าใจ ความรู้สึกเมื่อจับถือมันให้สัมผัสที่พรีเมียมเกินราคา แถมยังทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่ลื่น พูดง่ายๆ คือจับถนัดมือสุดๆ

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

และในรุ่นนี้ยังคงโดดเด่นด้วยโมดูลกล้องดีไซน์ใหม่ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ สวยงาม ไม่รบกวนสายตา ขอบจอโค้งมนนุ่มนวลต่อเนื่องไปถึงตัวเครื่อง สร้างความรู้สึกพรีเมียมในการใช้งาน

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

การจัดวางโมดูลกล้องด้านหลังของเครื่องนี้ถือว่าฉลาดมาก ไม่ได้มีดีแค่สวย แต่ยังได้ประโยชน์ใช้สอยด้วย กรอบโลหะสีเงินรอบเลนส์ไม่ได้มีไว้แค่ให้สวย แต่ยังช่วยปกป้องเลนส์เวลาวางเครื่องกับพื้น แถมยังยกสูงพอดีๆ ทำให้จับถือได้ถนัดมือด้วย

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

และที่เจ๋งไปกว่านั้น เวลาวางเครื่องกับพื้นผิวเรียบ เครื่องจะไม่โยกไปมาเหมือนสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่น ทำให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวเครื่องตกหล่นเวลาแตะหน้าจอ

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

Redmi Note 14 Pro+ 5G มีให้เลือก 3 สีสันที่สะท้อนความเป็นตัวคุณ

  • Lavender Purple: สีม่วงลาเวนเดอร์หรูหรา เหมาะกับคนชอบความโดดเด่นมีสไตล์
  • Frost Blue: สีฟ้าน้ำแข็งดูสดใส สะท้อนความทันสมัย
  • Midnight Black: สีดำขลับดูเท่ คลาสสิกตลอดกาล

ลืมภาพสมาร์ตโฟนบอบบางไปได้เลย เพราะ Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมโครงสร้าง All-Star Armor ที่เสริมความแข็งแกร่งในทุกจุด คล้ายๆ กับการสวมเกราะให้มือถือของคุณนั่นแหละ แต่ไม่ได้หนาหรือบึ้กจนถือไม่ถนัด ยังคงบางเฉียบสวยงามเหมือนเดิม

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือการใช้กระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 ทั้งหน้าจอและฝาหลัง ซึ่งเป็นกระจกรุ่นล่าสุดที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ผมเคยเห็นคลิปทดสอบที่ทำตกจากความสูงระดับเอว แล้วเครื่องยังใช้งานได้ปกติ ไม่มีรอยร้าวให้เห็น (แต่ก็ไม่แนะนำให้ลองทำตามนะครับ )

เคยไหมครับที่ต้องระแวงเวลาใช้มือถือกลางสายฝน หรือถ่ายรูปริมสระว่ายน้ำ? กับ Redmi Note 14 Pro+ 5G คุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะมาตรฐาน IP68 ทำให้แช่น้ำลึก 1.5 เมตรได้นานถึง 30 นาที

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

แถมยังมีเทคโนโลยี Wet Touch 2.0 ที่ทำให้ใช้หน้าจอได้แม้นิ้วเปียกน้ำ สมมติว่าคุณกำลังทำอาหารแล้วต้องเช็คสูตรในมือถือ หรือถ่ายรูปตอนฝนตก ก็ทำได้สบายๆ ไม่ต้องคอยเช็ดมือให้วุ่นวาย

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

พูดถึงกล้องต้องบอกว่าไม่ธรรมดา ด้วยความละเอียด 200MP บนเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว รูรับแสง f/1.65 ทำให้ภาพที่ได้สวยคมชัดในทุกสภาพแสง แถมยังมี OIS มาช่วยกันสั่น ถ่ายกลางคืนหรือมือไม่นิ่งก็ไม่ใช่ปัญหา

กล้อง AI 200MP
กล้อง AI 200MP
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G

ที่เจ๋งสุดๆ คือฟีเจอร์ AI ที่มาช่วยให้การถ่ายภาพง่ายขึ้น เช่น AI Erase Pro ที่ลบคนหรือวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้อย่างเนียนกริบ เหมือนมีช่างภาพมืออาชีพมาช่วยรีทัชให้ หรือ AI Film ที่ปรับแต่งโทนสีให้สวยแบบมืออาชีพ แค่กดปุ่มเดียว

[ตัวอย่างภาพก่อน-หลังใช้ AI Erase Pro]
[ตัวอย่างภาพก่อน-หลังใช้ AI Erase Pro]
[ตัวอย่างภาพก่อน-หลังใช้ AI Erase Pro]
[ตัวอย่างภาพก่อน-หลังใช้ AI Erase Pro]
[ตัวอย่างภาพที่ใช้ฟิลเตอร์ Film แบบต่างๆ]
[ตัวอย่างภาพที่ใช้ฟิลเตอร์ Film แบบต่างๆ]
[ตัวอย่างภาพที่ใช้ฟิลเตอร์ Film แบบต่างๆ]
[ตัวอย่างภาพที่ใช้ฟิลเตอร์ Film แบบต่างๆ]

ใครที่ชอบถ่ายเซลฟี่ต้องหลงรักกล้องหน้าของ Redmi Note 14 Pro+ 5G แน่นอน! ด้วยความละเอียด 20MP และรูรับแสง f/2.2 ที่เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน ให้สีสันสมจริง ไม่หลอกตา แถมยังมาพร้อมความสามารถพิเศษมากมาย

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

เจ๋งไปกว่านั้นคือระบบ AI Portrait ที่แยกแยะใบหน้าและฉากหลังได้แม่นยำ ทำให้ภาพเซลฟี่ของคุณดูโปรขึ้นทันที ปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ตามใจชอบ เหมือนมีช่างภาพส่วนตัวมาช่วยจัดแสงให้! แม้จะถ่ายในที่แสงน้อย กล้องหน้าก็ยังให้ภาพที่สว่างชัด ไม่มีนอยส์รบกวน

ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G

สายไลฟ์ห้ามพลาด! กล้องหน้าตัวนี้รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p ที่ 60fps ทำให้การไลฟ์สตรีมหรือวิดีโอคอลเป็นไปอย่างราบรื่น ภาพไม่กระตุก สีสันสดใส และที่เด็ดสุดคือระบบ AI Beautify ที่ปรับแต่งให้คุณดูดีในทุกมุมมอง แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ

ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G

[ตัวอย่างภาพเซลฟี่ในสภาพแสงต่างๆ]

ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 14 Pro+ 5G

เพื่อนๆ หลายคนอาจสงสัยว่า Redmi Note 14 Pro+ 5G รุ่นนี้แรงพอที่จะเล่นเกมหนักๆ หรือดูหนังได้ยาวๆ หรือเปล่า? วันนี้เราจะพาไปดูกันว่าทำไมสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถึงได้น่าสนใจขนาดนี้

Snapdragon 7s Gen 3 ตัวใหม่ล่าสุด

ถ้าพูดถึงหัวใจสำคัญของเครื่องนี้ ต้องยกให้ชิป Snapdragon 7s Gen 3 ตัวใหม่ล่าสุด ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร แปลเป็นภาษาคนทั่วไปก็คือ “แรงแต่ประหยัดไฟ” นั่นเอง! มาพร้อมกับ CPU 8 แกนที่ทำงานได้เร็วถึง 2.5GHz และ GPU จาก Qualcomm Adreno ที่พร้อมรับมือทุกเกมในปัจจุบัน

Redmi Note 14 Pro+ 5G ลื่นกว่าเดิมด้วย Xiaomi HyperOS บนพื้นฐาน Android 14 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่ทำทุกอย่างให้เร็วขึ้น มี Game Turbo ช่วยให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น และโหมด Performance ที่จะบูสต์ความเร็วเมื่อต้องการ

Xiaomi HyperOS

อีกทั้งยังจัดเต็มด้วย RAM ขนาด 12GB แถมยังขยายเพิ่มได้อีก! แปลว่าเปิดแอพเท่าไหร่ก็ไม่มีหน่วง สลับไปมาได้แบบไม่มีสะดุด ส่วนความจุ 512GB ก็เยอะพอที่จะเก็บเกม หนัง รูปถ่าย หรือวิดีโอได้แบบไม่ต้องกลัวเนื้อที่เต็ม

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

ลองเล่นเกมที่มาพร้อมกับกราฟิกแรงๆ ได้ไม่มีปัญหา! ไม่มีสะดุด และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือเครื่องไม่ร้อนจนน่ากังวล เพราะมีระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

ถ้าคุณเป็นคนชอบดูหนัง ดูซีรีส์ หรือเล่นเกม Redmi Note 14 Pro+ 5G จะทำให้คุณตกหลุมรักการดูคอนเทนต์บนมือถือแบบถอนตัวไม่ขึ้น! ด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดระดับ 1.5K (2712 x 1220 พิกเซล) สีสันสมจริงแบบ 12-bit ที่แสดงสีได้มากถึง 68.7 พันล้านสี

จะดูหนังกลางแดดก็ไม่กลัว เพราะความสว่างพีคสูงถึง 3,000 nits สว่างจัดจ้านเห็นชัดในทุกสภาพแสง แถมยังรองรับทั้ง HDR10+ และ Dolby Vision ทำให้ฉากมืดๆ เห็นรายละเอียดชัดเจน ส่วนฉากสว่างก็ไม่โดนตัดรายละเอียด เรียกว่าดูหนังได้อรรถรสเหมือนนั่งดูในโรงภาพยนตร์เลยทีเดียว

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือการรีเฟรชเรต 120Hz ที่ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวลื่นไหล ไม่ว่าจะเลื่อนหน้าจอ เล่นเกม หรือดูหนังแอคชั่น ก็ลื่นไหลไม่มีสะดุด แถมยังมี PWM Dimming 1920Hz ที่ช่วยลดอาการล้าตา ดูนานแค่ไหนก็ไม่เมื่อย

หน้าจอยังได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ทั้งด้าน Low Blue Light, Circadian Friendly และ Flicker Free ช่วยถนอมสายตาในการใช้งานระยะยาว เรียกได้ว่าเอาใจทั้งสายดูหนัง สายเกม และคนทำงานหนักที่ต้องจ้องหน้าจอนานๆ

และถ้าชอบดูหนังตอนกลางคืน ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องแสงสีฟ้า เพราะมีโหมดถนอมสายตาที่ปรับได้ตามเวลา พร้อมเซ็นเซอร์แสงรอบตัวที่ปรับความสว่างให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

และแน่นอนว่าจอดีแล้วส่วนของเสียงก็ต้องดีด้วย Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมลำโพงคู่พร้อม Dolby Atmos ให้เสียงที่หนักแน่น มีมิติ เบสแน่น ฟังเพลงมันส์ ดูหนังได้อารมณ์ เล่นเกมได้อินสุดๆ

แบตเตอรี่ 5,110mAh อยู่ได้ทั้งวันแบบสบายๆ แม้จะเล่นเกมหรือดูหนังยาวๆ ที่เด็ดสุดคือชาร์จเร็ว 120W ชาร์จเต็มใน 19 นาที เร็วกว่าสั่งมาม่ามากิน!

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G
แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

สรุปง่ายๆ ว่า Redmi Note 14 Pro+ 5G คือสมาร์ตโฟนที่แรงพอจะทำทุกอย่างที่คุณต้องการ จะเล่นเกม ดูหนัง ถ่ายรูป หรือทำงาน ก็ทำได้หมด แถมยังลื่นไหล ไม่มีสะดุด เรียกว่าคุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ!

Redmi Note 14 Pro+ 5G พิสูจน์ให้เห็นว่าสมาร์ตโฟนระดับกลางก็สามารถมีดีไซน์ระดับพรีเมียมได้ ด้วยการใส่ใจในรายละเอียดทุกจุด ตั้งแต่การเลือกวัสดุไปจนถึงการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานจริง

แกะกล่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G

Redmi Note 14 Pro+ 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่รวมทุกอย่างไว้ในเครื่องเดียว ทั้งดีไซน์สวยหรู กล้องเทพ ความทนทานสูง และประสิทธิภาพที่แรง ในราคาที่คุ้มค่า ไม่ว่าคุณจะเลือกสีไหน รับรองว่าได้สมาร์ตโฟนที่ทั้งสวยและคุ้มค่า สมกับการรอคอย!

บอกเลยว่าถ้าคุณกำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่ครบเครื่องในราคาที่คุ้มค่า เครื่องนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!

เสียวหมี่ ประเทศไทย เปิดตัว Redmi Note 14 Series อย่างเป็นทางการ นำโดยรุ่นท็อป Redmi Note 14 Pro+ 5G ความจุ 12GB+512GB ราคา 14,990 บาท เปิดจองล่วงหน้า 11-17 มกราคม พร้อมรับ BamBam Exclusive Gift Set และประกัน VIP Service มูลค่า 13,790 บาท

การวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

ตามมาด้วย Redmi Note 14 Pro 5G (12GB+256GB) ราคา 11,990 บาท แถมฟรี Redmi Watch 5 Active และประกัน VIP Service มูลค่า 11,290 บาท ส่วน Redmi Note 14 5G มีสองรุ่นความจุ 8GB+256GB ราคา 7,999 บาท และ 12GB+512GB ราคา 9,999 บาท รับฟรีกระเป๋าล้อลากและประกัน VIP Service

รุ่นเริ่มต้น Redmi Note 14 (8GB+256GB) ราคา 5,999 บาท รับฟรีกระเป๋าล้อลากและประกัน VIP Service เช่นกัน พิเศษสำหรับผู้ซื้อรุ่น Pro+ และ Pro มีสิทธิ์ลุ้นพบ BamBam ในงาน Fan Meet 8 กุมภาพันธ์ที่สยามพารากอน

วางจำหน่ายที่ Xiaomi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการ และช่องทางออนไลน์ทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Xiaomi Thailand

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
Preview | แกะกล่องตัวจริง “OPPO F11 Pro” มือถือกล้องหน้า Rising Camera
พรีวิว “realme GT 7 Pro” เรือธงสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite และระบบ AI ขั้นสูง
พรีวิว “Nokia 2720 Flip” ฝาพับสุดคลาสิก ปุ่มใหญ่ใช้งานง่าย รองรับ 4G ราคา 2,790 บาท

Leave Your Reply

*