ผู้ใช้ iPhone ในปัจจุบันต้องเผชิญกับปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็ว เนื่องจากฟีเจอร์ที่มากขึ้นและการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางหรือทำงานนอกสถานที่เป็นเวลานาน
วันนี้เรามีเทคนิคการประหยัดแบตเตอรี่ที่ได้ผลจริง พร้อมคำแนะนำจาก Apple โดยตรง ที่จะช่วยให้คุณใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน
การจัดการการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์
การปิดฟีเจอร์ iPhone Mirroring เป็นวิธีแรกที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ควบคุม iPhone ผ่าน Mac ได้ แต่การเชื่อมต่อตลอดเวลาเพื่อส่งการแจ้งเตือนระหว่างอุปกรณ์ ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น
วิธีปิดทำได้ง่ายๆ โดยไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > AirPlay และ Continuity > แก้ไข จากนั้นลบ Mac ที่เชื่อมต่ออยู่ออก การปิดฟีเจอร์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานทั่วไปของ iPhone แต่จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อย่างมาก
การใช้งาน Apple Intelligence อย่างชาญฉลาด
สำหรับผู้ใช้ iPhone 15 Pro และ iPhone 16 ควรระมัดระวังการใช้งานฟีเจอร์ Apple Intelligence ซึ่งเป็นระบบประมวลผลอัจฉริยะบนตัวเครื่อง ฟีเจอร์นี้รวมถึง Genmoji ระบบสร้างอิโมจิอัจฉริยะ Image Playground เครื่องมือแต่งภาพขั้นสูง และ Writing Tools เครื่องมือช่วยเขียนอัจฉริยะ จากการทดสอบพบว่าการใช้ Genmoji เพียงชั่วโมงเดียวสามารถทำให้แบตเตอรี่ iPhone 16 Pro Max ลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นควรใช้งานเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น
การใช้ประโยชน์จาก Dark Mode
การเปิดใช้ Dark Mode บนหน้าจอ OLED ของ iPhone ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพิกเซลสีเข้มใช้พลังงานน้อยกว่า จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Purdue ในปี 2021 พบว่าการใช้ Dark Mode ในที่แจ้งช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มากกว่า Light Mode แม้จะตั้งค่าความสว่างระดับเดียวกัน นอกจากนี้แม้ในที่ร่ม Dark Mode ยังคงช่วยประหยัดพลังงานได้ดีกว่า และใน iOS 18 ยังสามารถตั้งค่าให้ไอคอนเป็นโหมดมืดอัตโนมัติเมื่อเปิด Dark Mode อีกด้วย
การจัดการการเชื่อมต่อเครือข่าย
การเชื่อมต่อ Wi-Fi เมื่อมีสัญญาณเป็นวิธีประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพ เพราะใช้พลังงานน้อยกว่าการใช้เครือข่ายมือถือ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่สัญญาณมือถืออ่อน พื้นที่ที่สัญญาณขาดๆ หายๆ หรือพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณมือถือ ในกรณีเหล่านี้ การเปิด Airplane Mode จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น เนื่องจาก iPhone จะไม่พยายามค้นหาสัญญาณตลอดเวลา
การปรับแต่งการสั่นและการตอบสนอง
การปิดการสั่น Haptic บนแป้นพิมพ์เป็นวิธีที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะให้ความรู้สึกดีขณะพิมพ์ แต่ก็ใช้พลังงานค่อนข้างมาก สามารถปิดได้ที่การตั้งค่า > เสียงและการสั่น > การตอบสนองแป้นพิมพ์ > ปิดการสั่น การปรับตั้งค่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างเห็นได้ชัด
การจัดการการแจ้งเตือนอย่างชาญฉลาด
ระบบ Focus Mode และ Scheduled Summary เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยจัดการการแจ้งเตือนให้มีประสิทธิภาพ โดย Focus Mode ช่วยกำหนดการแจ้งเตือนตามกิจกรรมและเวลา ส่วน Scheduled Summary ช่วยรวมการแจ้งเตือนที่ไม่เร่งด่วนมาแสดงในเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Reduce Interruptions ที่ใช้ Apple Intelligence กรองการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นโดยอัตโนมัติ ช่วยลดการเปิดหน้าจอโดยไม่จำเป็น
การใช้งานแผนที่แบบออฟไลน์
สำหรับพื้นที่ที่สัญญาณอ่อนหรือไม่มีสัญญาณ การดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์มีประโยชน์มาก นอกจากจะประหยัดแบตเตอรี่เพราะไม่ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้ว ยังสามารถใช้งานนำทางได้แม้ไม่มีสัญญาณ เหมาะสำหรับการเดินทางในพื้นที่ห่างไกล
การตั้งค่า Low Power Mode อัจฉริยะ
การตั้งค่า Low Power Mode อัตโนมัติที่ระดับแบตเตอรี่ที่เหมาะสมช่วยยืดอายุการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น สามารถตั้งค่าผ่านแอพ Shortcuts โดยการสร้าง Automation ใหม่สำหรับการเปิด Low Power Mode และกำหนดระดับแบตเตอรี่ที่ต้องการให้ระบบทำงานอัตโนมัติ วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องคอยกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดกลางวัน
การจัดการการเข้าถึงแอพและการติดตาม
การตรวจสอบและจำกัดการเข้าถึงของแอพต่างๆ เป็นวิธีสุดท้ายที่สำคัญมาก ควรปิดการเข้าถึง Location สำหรับแอพที่ไม่จำเป็น จำกัดการใช้ Bluetooth เฉพาะแอพที่ต้องใช้จริง และปิด Background App Refresh สำหรับแอพที่ไม่ต้องอัพเดทข้อมูลตลอดเวลา นอกจากนี้ หากคุณใช้ Apple Watch หรืออุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายอื่น ก็ควรปิดการติดตามการออกกำลังกายบน iPhone เพื่อประหยัดพลังงาน
อ้างอิง | Macrumors.com