
American Airlines เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถแชร์ตำแหน่งกระเป๋าเดินทางที่ติด AirTag กับพนักงานสายการบินได้โดยตรง เพื่อติดตามกระเป๋าที่สูญหายหรือล่าช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แอปเปิล ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 18.2 ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ตำแหน่งอุปกรณ์ที่ติดตั้ง AirTag กับบุคคลอื่นได้ชั่วคราว รวมถึงพนักงานของสายการบินที่เข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่กระเป๋าเดินทางสูญหายหรือล่าช้าที่สนามบิน ซึ่งจะช่วยให้การติดตามและค้นหากระเป๋าทำได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ตามการยืนยันจากโฆษกของ American Airlines สายการบินได้เริ่มเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ในสัปดาห์นี้ โดยผู้โดยสารสามารถสร้างลิงก์ผ่านฟีเจอร์ Share Item ที่มีให้ใช้งานบน iOS 18.2 หรือเวอร์ชันที่ใหม่กว่า และแชร์ลิงก์นี้กับ American Airlines ในกรณีที่กระเป๋าล่าช้าสำหรับเที่ยวบินที่มีจุดเริ่มต้นหรือปลายทางที่สนามบินในสหรัฐอเมริกา ผู้โดยสารเพียงแค่สแกน QR โค้ดที่แผนกกระเป๋าเดินทางเพื่อเริ่มการแจ้งเรื่องและให้ข้อมูลที่จำเป็น
สำหรับผู้ใช้งาน iPhone, iPad และ Mac ที่ใช้ iOS 18.2, iPadOS 18.2 และ macOS Sequoia 15.2 หรือเวอร์ชันที่ใหม่กว่า สามารถสร้างลิงก์ “Share Item Location” ในแอป Find My ได้ โดยผู้ที่ได้รับการแชร์ลิงก์จะสามารถดูตำแหน่งของอุปกรณ์บนแผนที่ผ่านหน้าเว็บ ซึ่งจะอัปเดตตำแหน่งล่าสุดโดยอัตโนมัติ
แอปเปิล ได้ทำงานร่วมกับสายการบินต่างๆ โดยตรงเพื่อวางระบบที่จะรับลิงก์ “Share Item Location” อย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัย การเข้าถึงลิงก์แต่ละลิงก์จะจำกัดเฉพาะบุคคลจำนวนน้อย และพนักงานสนามบินจะต้องยืนยันตัวตนเพื่อดูลิงก์โดยการลงชื่อเข้าใช้บัญชี Apple หรืออีเมลพาร์ทเนอร์
ตำแหน่งของอุปกรณ์จะหยุดการแชร์ทันทีที่ผู้ใช้ได้รับกระเป๋าคืน หรือจะหมดอายุโดยอัตโนมัติหลังจาก 7 วัน นอกจาก American Airlines แล้ว สายการบินอื่นๆ ที่รองรับฟีเจอร์นี้แล้วได้แก่ Delta, United, Air Canada, Virgin Atlantic และ Lufthansa โดย แอปเปิล ระบุว่าจะมีสายการบินเพิ่มเติมที่จะนำฟีเจอร์นี้ไปใช้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
อ้างอิง | Macrumors.com