แอปเปิล เปิดตัว Beta รอบที่สองของ iOS 18.4 พร้อมอีโมจิใหม่หลายตัวที่จะเพิ่มสีสันให้การสื่อสารของผู้ใช้

การอัปเดต Beta ล่าสุดของ iOS 18.4 ที่ แอปเปิล ปล่อยออกมาวันนี้ได้เพิ่มชุดอีโมจิใหม่หลายตัวที่น่าสนใจ โดยทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐาน Unicode 16 ที่เปิดตัวในเดือนกันยายน 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นธรรมดาที่ แอปเปิล จะใช้เวลาหลายเดือนในการออกแบบและสร้างสรรค์งานศิลป์สำหรับอีโมจิใหม่ๆ ที่ได้รับการอนุมัติ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราเพิ่งจะได้เห็นอีโมจิชุดกันยายน 2024 ในตอนนี้

อีโมจิใหม่ใน iOS 18.4 Beta มีอะไรบ้าง

อีโมจิใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน iOS 18.4 Beta ครั้งนี้ประกอบด้วยหลากหลายรูปแบบที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าที่มีถุงใต้ตา ซึ่งสามารถสื่อถึงความเหนื่อยล้าหรือการอดหลับอดนอน, ลายนิ้วมือที่สามารถใช้แทนความเป็นเอกลักษณ์หรือการระบุตัวตน, ต้นไม้ไร้ใบที่อาจสื่อถึงฤดูหนาวหรือความเปลี่ยนแปลง, ผักหัว ซึ่งเป็นกลุ่มของพืชที่มีส่วนที่กินได้อยู่ใต้ดิน เช่น แครอท หรือหัวผักกาด

นอกจากนี้ยังมีพิณฮาร์ป เครื่องดนตรีคลาสสิกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน, พลั่วที่สามารถใช้สื่อถึงการขุด การเกษตร หรือแม้แต่การฝังอะไรบางอย่าง และรอยกระเซ็นที่สามารถสื่อความหมายได้หลากหลายตั้งแต่น้ำกระเซ็นไปจนถึงสิ่งที่กระจายออกในทิศทางต่างๆ

การเพิ่มอีโมจิใหม่เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้ ไอโฟน และอุปกรณ์ แอปเปิล อื่นๆ มีตัวเลือกในการแสดงออกทางอารมณ์และสื่อสารได้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมการสื่อสารออนไลน์ในปัจจุบันที่อีโมจิได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารข้อความประจำวัน

อีโมจิล่าสุดก่อนหน้านี้ใน iOS 17.4

ครั้งล่าสุดที่ แอปเปิล เพิ่มอีโมจิใหม่คือในการอัปเดต iOS 17.4 ที่ออกมาในเดือนมีนาคม 2024 ซึ่งได้แนะนำอีโมจิมะนาว, เห็ดสีน้ำตาลที่กินได้, นกฟีนิกซ์ (นกในตำนานที่สามารถเกิดใหม่จากเถ้าถ่านของตัวเอง), โซ่ที่ขาด, ใบหน้าที่ส่ายศีรษะในแนวตั้ง (แสดงถึงการพยักหน้า “ใช่”) และใบหน้าที่ส่ายศีรษะในแนวนอน (แสดงถึงการส่ายหน้า “ไม่”)

ชุดอีโมจิเหล่านี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้ แอปเปิล ทั่วโลก โดยเฉพาะอีโมจิที่แสดงการพยักหน้าและส่ายหน้าที่ช่วยให้การสื่อสารทางข้อความมีความชัดเจนมากขึ้น ลดความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นในการสื่อสารออนไลน์ ซึ่งบางครั้งอาจขาดบริบทที่ชัดเจน

อีโมจิที่จะมาในอนาคต: Unicode 17

นอกจากอีโมจิใหม่ที่กำลังจะมาถึงใน iOS 18.4 แล้ว ปีหน้าเราจะได้เห็นอีโมจิจาก Unicode 17 ซึ่งจะมีตัวละครที่น่าสนใจมากมาย เช่น สิ่งมีชีวิตมีขน (คล้ายกับบิ๊กฟุต หรือที่รู้จักกันในประเทศไทยว่ายีติ สิ่งมีชีวิตในตำนานที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย), ใบหน้าบิดเบี้ยวที่อาจใช้แสดงความรู้สึกสับสนหรือผิดปกติ, กลุ่มควันจากการต่อสู้ที่มักปรากฏในการ์ตูนเมื่อมีการทะเลาะวิวาท, แกนแอปเปิลที่เหลือหลังจากกินผลแอปเปิล, วาฬเพชฌฆาตหรือวาฬออร์กา, ทรอมโบน (เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าทองเหลือง), ดินถล่มที่สามารถใช้สื่อถึงภัยธรรมชาติ และหีบสมบัติที่มักปรากฏในนิทานและเรื่องราวการผจญภัย

อีโมจิชุดนี้จะเพิ่มความหลากหลายให้กับคลังอีโมจิที่มีอยู่แล้ว และตอบสนองต่อวัฒนธรรมป๊อปและการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไป โดยคาดว่าจะได้เห็นในการอัปเดต iOS ปีหน้า

ความสำคัญของอีโมจิในการสื่อสารยุคดิจิทัล

อีโมจิได้กลายเป็นภาษาสากลรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้ผู้คนจากต่างวัฒนธรรมสามารถสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด การที่ แอปเปิล ให้ความสำคัญกับการอัปเดตและเพิ่มอีโมจิใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของอีโมจิในการสื่อสารยุคดิจิทัล

การอัปเดต iOS 18.4 ยังอยู่ในขั้นตอน Beta ซึ่งหมายความว่านักพัฒนาและผู้ทดสอบโปรแกรมสามารถทดลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คาดว่าเวอร์ชันเต็มของ iOS 18.4 จะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งผู้ใช้ ไอโฟน ทั่วไปจะสามารถเพลิดเพลินกับอีโมจิใหม่เหล่านี้ได้

กระบวนการเพิ่มอีโมจิใหม่ของแอปเปิล

กระบวนการเพิ่มอีโมจิใหม่ของ แอปเปิล ไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่เป็นกระบวนการที่มีขั้นตอนและใช้เวลา เริ่มต้นจากการที่คณะกรรมการ Unicode ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ดูแลมาตรฐาน Unicode จะอนุมัติอีโมจิชุดใหม่ หลังจากนั้น แอปเปิล จะใช้เวลาในการออกแบบงานศิลป์ที่เหมาะสมกับสไตล์ของบริษัทและทดสอบการแสดงผลบนอุปกรณ์ต่างๆ

การออกแบบอีโมจิของ แอปเปิล มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Google หรือ Microsoft ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีการตีความและออกแบบอีโมจิตามสไตล์ของตนเอง ทำให้อีโมจิเดียวกันอาจมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันไปตามแพลตฟอร์มที่ใช้งาน

ผลกระทบของอีโมจิใหม่ต่อผู้ใช้งาน

การเพิ่มอีโมจิใหม่ไม่เพียงแต่ช่วยให้การสื่อสารมีความหลากหลายมากขึ้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงออกทางอารมณ์ได้ตรงกับความรู้สึกมากขึ้น อีโมจิบางตัว เช่น หน้าถุงใต้ตา อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการสื่อสารถึงความเหนื่อยล้าหรือการอดนอน โดยไม่ต้องพิมพ์ข้อความยาวๆ

นอกจากนี้ อีโมจิยังช่วยเพิ่มอารมณ์ขันและความสนุกสนานในการสนทนา ทำให้การสื่อสารออนไลน์มีชีวิตชีวามากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานทางไกลและการสื่อสารผ่านข้อความกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน

อ้างอิง | Macrumors.com