
Apple ยกระดับประสบการณ์แท็บเล็ตด้วยการเปิดตัว iPad Air รุ่นใหม่ที่มาพร้อมชิป M3 อันทรงพลังและ Magic Keyboard ดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มความอเนกประสงค์ในการใช้งาน
เทคโนโลยีล้ำสมัยในราคาที่จับต้องได้
Apple ได้เปิดตัว iPad Air รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมชิป M3 ซึ่งเป็นการนำสถาปัตยกรรมกราฟิกระดับสูงของ Apple มาสู่ iPad Air เป็นครั้งแรก โดยอุปกรณ์รุ่นใหม่นี้มีประสิทธิภาพที่เร็วกว่า iPad Air รุ่นที่ใช้ชิป M1 เกือบ 2 เท่า และเร็วกว่ารุ่นที่ใช้ชิป A14 Bionic สูงสุดถึง 3.5 เท่า ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็วและเล่นเกมที่ต้องการพลังประมวลผลกราฟิกสูงได้อย่างลื่นไหล

iPad Air รุ่นใหม่มีให้เลือกสองขนาดคือรุ่น 11 นิ้วที่พกพาสะดวก และรุ่น 13 นิ้วที่มอบพื้นที่หน้าจอกว้างขวางสำหรับงานสร้างสรรค์ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมสีสันสวยงาม 4 สี ได้แก่ สีฟ้า สีม่วง สีสตาร์ไลท์ และสีเทาสเปซเกรย์
บ็อบ บอร์เชอร์ส รองประธานฝ่าย Worldwide Product Marketing ของ Apple กล่าวว่า “iPad Air ได้รับความนิยมมากเพราะมีความลงตัวที่ยากจะหาใครเทียบระหว่างประสิทธิภาพ ความสะดวกในการพกพา และการรองรับอุปกรณ์เสริมสุดล้ำ ซึ่งทั้งหมดนี้มาในราคาที่ใครก็เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ”
ชิป M3 ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน
iPad Air รุ่นใหม่มาพร้อมชิป M3 ที่มี CPU แบบ 8-core ประสิทธิภาพสูง ทำให้เวิร์กโฟลว์แบบหลายเธรดเร็วขึ้นสูงสุด 35% เมื่อเทียบกับรุ่นชิป M1 ขณะที่ GPU แบบ 9-core ให้ประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่เร็วกว่าถึง 40%

นอกจากนี้ ชิป M3 ยังรองรับเทคโนโลยี Dynamic Caching และการแสดงผลด้านกราฟิกขั้นสูงอย่างเมชและเรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ทำให้การเรนเดอร์กราฟิกเร็วกว่ารุ่นที่ใช้ชิป M1 ถึง 4 เท่า ส่งผลให้ภาพในเกมและงานกราฟิกมีความสมจริงและสวยงามยิ่งขึ้น
Neural Engine ที่ปรับปรุงใหม่ในชิป M3 ทำงานเร็วขึ้นสูงสุด 60% สำหรับงานด้าน AI เมื่อเทียบกับชิป M1 ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการรองรับ Apple Intelligence เทคโนโลยี AI อัจฉริยะล่าสุดจาก Apple
Apple Intelligence: ระบบอัจฉริยะส่วนบุคคล
iPad Air รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับ Apple Intelligence ระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่นำเสนอฟีเจอร์อันชาญฉลาดและมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น:
เครื่องมือลบออก (Remove Tool)
ฟีเจอร์ในแอปรูปภาพที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลบสิ่งรบกวนในภาพได้อย่างง่ายดาย
การค้นหาด้วยภาษาธรรมชาติ
ผู้ใช้สามารถค้นหารูปภาพหรือวิดีโอได้โดยการอธิบายสิ่งที่ต้องการค้นหาด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติ
ไม้เสกภาพ (Image Wand)
เครื่องมือในแอปโน้ตที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างภาพสวยงามจากภาพสเก็ตช์หรือพื้นที่ว่างเปล่า โดยการวาดวงกลมล้อมรอบด้วย Apple Pencil
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Image Playground สำหรับสร้างภาพในแบบสร้างสรรค์ Genmoji สำหรับสร้างอิโมจิแบบกำหนดเอง และเครื่องมือการเขียนที่ช่วยให้การเขียนลื่นไหลยิ่งขึ้น
Siri ก็ได้รับการอัปเกรดให้สนทนาได้สมบูรณ์มากขึ้น โดยผู้ใช้สามารถพิมพ์โต้ตอบกับ Siri ได้ และระบบจะรักษาบริบทของบทสนทนาเพื่อนำไปใช้ในการสนทนาครั้งต่อๆ ไป
iPad Air รุ่นใหม่ยังสามารถเชื่อมต่อกับ ChatGPT ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีหรือสลับไปมาระหว่างแอปพลิเคชัน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้เร็วและง่ายขึ้น
Magic Keyboard ดีไซน์ใหม่ เพิ่มความอเนกประสงค์
Apple ยังได้เปิดตัว Magic Keyboard รุ่นใหม่สำหรับ iPad Air โดยมาพร้อมแทร็คแพดในตัวที่ใหญ่ขึ้นเพื่อความแม่นยำในการใช้งาน พร้อมแถวปุ่มฟังก์ชั่น 14 ปุ่มใหม่ที่ช่วยให้เข้าถึงคุณสมบัติต่างๆ เช่น การปรับความสว่างหน้าจอและระดับเสียงได้อย่างสะดวก

Magic Keyboard รุ่นใหม่ติดเข้ากับตัวเครื่องด้วยแม่เหล็กและมี Smart Connector ที่ช่วยในการเชื่อมต่อและจ่ายไฟโดยไม่ต้องใช้ Bluetooth ส่วนบานพับอะลูมิเนียมมาพร้อมช่อง USB-C สำหรับชาร์จไฟ

iPad รุ่นปรับปรุงใหม่ด้วยชิป A16
นอกจาก iPad Air แล้ว Apple ยังได้อัปเดต iPad รุ่นปกติให้มาพร้อมชิป A16 ซึ่งเร็วขึ้นเกือบ 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และมีประสิทธิภาพโดยรวมเพิ่มขึ้นสูงสุด 50% เมื่อเทียบกับ iPad ที่ใช้ชิป A13 Bionic โดยยังคงใช้แบตเตอรี่ได้ตลอดวัน
iPad รุ่นใหม่นี้ยังเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นเป็นสองเท่า พร้อมทั้งเพิ่มตัวเลือกความจุขนาด 512GB เป็นครั้งแรก
iPadOS 18 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ทรงพลัง
iPadOS 18 ระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับ iPad มาพร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยมากมาย เช่น:
- แอปเครื่องคิดเลขที่ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับ iPad โดยเฉพาะ
- Math Notes ที่ช่วยให้ผู้ใช้พิมพ์หรือเขียนนิพจน์ทางคณิตศาสตร์และเห็นคำตอบในทันที
- สคริปต์อัจฉริยะที่ช่วยปรับลายมือให้อ่านง่ายขึ้นในแอปโน้ต
- ฟีเจอร์บันทึกเสียงและถอดเสียงที่ซิงค์กับข้อความได้
- ตัวเลือกใหม่ในการปรับแต่งหน้าจอโฮม ไอคอนแอป และวิดเจ็ต
ดีต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
iPad Air และ iPad รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยผลิตจากวัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 30% ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% และแม่เหล็กทั้งหมดใช้แร่โลหะหายากรีไซเคิล 100%
แบตเตอรี่มีโคบอลต์รีไซเคิล 100% และเป็นครั้งแรกของ iPad ที่ใช้ลิเทียมรีไซเคิลมากกว่า 95% นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ยังใช้เยื่อไม้ทั้งหมด สอดคล้องกับเป้าหมายของ Apple ในการขจัดพลาสติกออกจากบรรจุภัณฑ์ภายในสิ้นปีนี้
ราคาและการวางจำหน่าย
iPad Air รุ่น 11 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 21,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 27,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ส่วน iPad Air รุ่น 13 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 28,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 34,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular
Magic Keyboard รุ่นใหม่สำหรับ iPad Air รุ่น 11 นิ้ว ราคา 9,990 บาท และรุ่น 13 นิ้ว ราคา 10,990 บาท
iPad รุ่นใหม่พร้อมชิป A16 ราคาเริ่มต้นที่ 12,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 18,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular โดยมีให้เลือกในสีฟ้า สีชมพู สีเหลือง และสีเงิน ความจุเริ่มต้นที่ 128GB และมีรุ่น 256GB และ 512GB ให้เลือก
Apple Pencil Pro สำหรับใช้งานกับ iPad Air ใหม่มีราคา 4,490 บาท ส่วน Apple Pencil (USB-C) ราคา 2,990 บาท ซึ่งสามารถใช้งานได้กับทั้ง iPad Air และ iPad รุ่นใหม่
นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ Apple ในราคาส่งเสริมการศึกษาที่ถูกกว่าราคาปกติ โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ apple.com/th-edu/shop