“บีตส์” เตรียมเปิดตัว Powerbeats Pro 2 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ พร้อมฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ เน้นตอบโจทย์สายสปอร์ต
แอปเปิล (Apple) กำลังจะสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ในวงการหูฟังสำหรับนักกีฬาด้วยการเปิดตัว Powerbeats Pro 2 หูฟังไร้สายรุ่นล่าสุดจาก บีตส์ (Beats) ที่มาพร้อมนวัตกรรมการวัดอัตราการเต้นของหัวใจและฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย ตามรายงานจาก มาร์ค เกอร์แมน นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก บลูมเบิร์ก (Bloomberg)
เตรียมพบกับนวัตกรรมใหม่! OPPO Find N5 สมาร์ตโฟนพับได้บางเฉียบที่สุดในโลก พร้อมชิปเรือธงสุดล้ำ
OPPO กำลังจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการสมาร์ตโฟนพับได้อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว OPPO Find N5 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ได้เผยภาพเปรียบเทียบความบางของตัวเครื่องที่บางเพียง 3.7 มิลลิเมตรเมื่อกางออก เทียบกับ iPhone 16 Pro Max
TikTok กลับมาใช้งานได้แล้วในสหรัฐฯ แต่ยังคงถูกถอดจาก App Store
TikTok กลับมาให้บริการได้อีกครั้งในสหรัฐอเมริกาหลังจากถูกระงับการใช้งานไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยแอปพลิเคชันได้แจ้งผ่านข้อความในระบบว่าการกลับมาใช้งานได้นี้เป็นผลมาจากความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่จะเข้ามาแก้ไขสถานการณ์อย่างเร่งด่วน
iPhone 17 เตรียมอัปเกรดระบบระบายความร้อนครั้งใหญ่ด้วยเทคโนโลยี Vapor Chamber
iPhone 17 ทุกรุ่นเตรียมมาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการความร้อน
แอปเปิลถอด TikTok ออกจาก App Store ในสหรัฐฯ ท่ามกลางวิกฤตความมั่นคง
แอปเปิล (Apple) ได้ถอดแอปพลิเคชัน TikTok ออกจาก App Store สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 มกราคม เวลา 20:38 น. ตามเวลาแปซิฟิก ส่งผลให้ผู้ใช้ iPhone และ iPad ในประเทศไม่สามารถดาวน์โหลดแอปใหม่หรือใช้งานแอปที่ติดตั้งไว้แล้วได้ ขณะที่ผู้ใช้งานในประเทศอื่นๆ ยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ
Instagram เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ Reels รับมือการแบน TikTok ในสหรัฐฯ เน้นเชื่อมต่อผู้ใช้ผ่านคอนเทนต์
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ TikTok กำลังจะถูกแบนออกจาก App Store ในสหรัฐอเมริกาในวันอาทิตย์นี้ Instagram ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Reels แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่พัฒนาขึ้นเพื่อแข่งขันกับ TikTok โดยตรง พร้อมเน้นย้ำจุดยืนการเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อผู้คนผ่านคอนเทนต์
iPhone SE รุ่นใหม่กำลังจะมา! สต็อกในร้าน Apple Store เริ่มร่อยหรอ ยกระดับสเปกครั้งใหญ่พร้อมดีไซน์โฉมใหม่
แอปเปิล เตรียมเปิดตัว iPhone SE รุ่นที่ 4 หลังพบว่าสต็อกรุ่นปัจจุบันในร้าน Apple Store หลายแห่งทั่วสหรัฐอเมริกาเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว สะท้อนสัญญาณการมาถึงของไอโฟนรุ่นประหยัดรุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมการปรับโฉมครั้งใหญ่ มาร์ค เกอร์แมน นักวิเคราะห์จาก Bloomberg รายงานผ่านจดหมายข่าว Power On ว่า สต็อกของ iPhone SE รุ่นปัจจุบันในร้าน Apple Store จำนวนมากทั่วสหรัฐฯ กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว แม้ยังสามารถสั่งซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ได้ตามปกติ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่น่าเชื่อถือว่ารุ่นใหม่กำลังจะมาถึง ด้าน หมิง-ชี กัว นักวิเคราะห์ซัพพลายเชนชื่อดัง คาดการณ์ว่า iPhone SE 4 จะเปิดตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งน่าจะตรงกับเดือนมีนาคมหรือเมษายน เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้าที่เคยเปิดตัวมา โดยรุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทั้งด้านดีไซน์และประสิทธิภาพ การปรับโฉมครั้งใหญ่ของ iPhone SE รุ่นที่ 4 จะมาพร้อมดีไซน์ที่คล้ายคลึงกับ iPhone 14 รุ่นพื้นฐาน โดยจะมีหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ซึ่งให้สีสันสมจริงและความคมชัดสูงกว่าจอ LCD แบบเดิม พร้อมระบบสแกนใบหน้า Face ID ที่มีความปลอดภัยสูง แทนที่ปุ่ม Touch ID แบบเดิม นอกจากนี้ยังเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ที่เป็นมาตรฐานสากล รองรับการชาร์จเร็วและถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง ในด้านกล้องถ่ายภาพ iPhone SE รุ่นใหม่จะมาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายภาพได้คมชัดและมีรายละเอียดสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย พร้อมชิปประมวลผล A-series รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทรงพลัง และ RAM ขนาด 8GB เพื่อรองรับการทำงานของ Apple Intelligence ระบบปัญญาประดิษฐ์ตัวใหม่จากแอปเปิล ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการติดตั้งโมเด็ม 5G ที่ออกแบบโดยแอปเปิลเอง ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลนำชิปโมเด็มที่พัฒนาเองมาใช้ในไอโฟน แทนการพึ่งพาชิปจากผู้ผลิตภายนอก คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อและประหยัดพลังงานได้ดียิ่งขึ้น สำหรับ iPhone SE รุ่นปัจจุบันที่มีราคาเริ่มต้นที่ 429 ดอลลาร์สหรัฐ ยังคงมีดีไซน์คล้าย iPhone 8 พร้อมปุ่ม Touch ID พอร์ต Lightning และขอบจอหนา ซึ่งถือว่าเป็นดีไซน์ที่ค่อนข้างล้าสมัยในปัจจุบัน ด้วยการอัปเกรดฮาร์ดแวร์และการปรับโฉมครั้งใหญ่ในรุ่นใหม่ คาดว่าราคาอาจมีการปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงความคุ้มค่าในฐานะไอโฟนรุ่นประหยัด อ้างอิง | Macrumors.com
ศาลสูงสหรัฐฯ ไฟเขียวแบน TikTok 19 มกราคม นี้ เล็งบังคับขาย ByteDance ท่ามกลางวิกฤตความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ
ศาลสูงสหรัฐอเมริกาประกาศคำตัดสินยืนยันการบังคับใช้กฎหมายแบนแอปพลิเคชัน TikTok ในวันที่ 19 มกราคมนี้ ส่งผลให้ Apple และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลต้องถอดแอปออกจากสโตร์ และห้ามให้บริการในสหรัฐฯ เว้นแต่ ByteDance จะยอมขายกิจการในสหรัฐฯ ให้บริษัทท้องถิ่น ท่ามกลางความกังวลด้านความมั่นคงและการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน ภายหลังจากที่รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมาย Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act (การปกป้องชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยคู่แข่งต่างชาติ) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ได้รับเวลา 9 เดือนในการขายกิจการให้กับบริษัทสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทเลือกที่จะอุทธรณ์คำตัดสิน โดยอ้างว่ากฎหมายดังกล่าวละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงออก แต่ศาลสูงยืนยันว่าในฐานะบริษัทจีน ByteDance ไม่มีสิทธิ์อ้างการคุ้มครองดังกล่าว ByteDance ยังคงยืนยันว่าการแยกระบบ TikTok ออกจากบริษัทแม่เป็นไปไม่ได้ในทางเทคนิค เนื่องจากความซับซ้อนของโค้ดและการเชื่อมโยงกับเครื่องมือซอฟต์แวร์ของบริษัท อีกทั้งไม่ต้องการส่งมอบอัลกอริธึมอันเป็นความลับทางการค้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการแนะนำคอนเทนต์ให้ผู้ใช้งาน ขณะที่รัฐบาลจีนก็คัดค้านการขายกิจการ โดยมองว่าเป็นการบีบบังคับทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ชู เฉิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า การกระทำของสหรัฐฯ เป็นการละเมิดหลักการค้าเสรีและการแข่งขันที่เป็นธรรม พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยุติการกลั่นแกล้งบริษัทต่างชาติ และสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุนระหว่างประเทศ ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่าการตัดสินใจขึ้นอยู่กับเขา และอาจพิจารณาใช้อำนาจบริหารเพื่อชะลอการแบนแอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้งานกว่า 170 ล้านคนในสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ในการแสดงออกและสร้างรายได้ มาร์ค วอร์เนอร์ ประธานคณะกรรมการข่าวกรองวุฒิสภาสหรัฐฯ ย้ำว่า การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้งาน แต่เป็นความพยายามในการปกป้องความมั่นคงของชาติ เนื่องจากมีหลักฐานว่า ByteDance มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน และอาจถูกบังคับให้ส่งข้อมูลผู้ใช้งานชาวอเมริกันตามกฎหมายความมั่นคงของจีน ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงไซเบอร์คาดการณ์ว่า หาก TikTok ถูกแบนจริง จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจดิจิทัลของสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการตลาดออนไลน์และเศรษฐกิจครีเอเตอร์ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี อ้างอิง | Macrumors.com
เปิดตัวในไทย “Dyson Airwrap i.d.” ยกระดับการจัดแต่งทรงผมด้วย AI อัจฉริยะผ่านแอปฯ
Dyson เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุด Dyson Airwrap i.d.™ อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมอัจฉริยะรุ่นแรกที่เชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน สร้างลอนผมสวยด้วยระบบ AI ที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล พร้อมวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามระดับโลก
iPhone 17 Air อาจเป็นไอโฟนที่บางที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยความบางเพียง 5.5 มิลลิเมตร
แอปเปิล (Apple) กำลังเตรียมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วย iPhone 17 Air รุ่นพิเศษที่จะมาแทนที่ iPhone 17 Plus โดยมีจุดเด่นที่ความบางเฉียบเพียง 5.5 มิลลิเมตร
