ด้วยความสำเร็จสำหรับ 5 ปีที่ผ่านมาอย่างล้นหลามของแบรนด์ OnePlus ที่ได้ก่อตั้งและมุ่งเน้นสร้างสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานทั่วโลก  และในครั้งนี้กับการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของ OnePlus ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Super Flagship รุ่นใหม่อย่าง OnePlus 7 และ OnePlus 7 Pro  อย่างเป็นทางการแล้ว

ที่สุดของสมาร์ทโฟนเรือธงสุดพรีเมี่ยม 2 รุ่น ด้วยความเร็วแรง และลื่นไหล พร้อมที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าสมาร์ทโฟนทุกรุ่นเท่าที่เคยมีมา ที่พัฒนาจากความใส่ใจ และความเข้าใจถึงการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เหนือระดับ

OnePlus 7 Pro

โดย OnePlus 7 มาพร้อมกับหน้าจอรอยบากทรงหยดน้ำขนาด XX นิ้วเป็นหน้า AMOLED ความละเอียด Full HD+  ส่วนหน้าจอของ OnePlus 7 Pro มาพร้อมกับหน้าจอ Full AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด QHD+ ที่รองรับมาตรฐานความละเอียดสูงสุดอย่าง HDR 10+ สำหรับการรับชมความบันเทิงด้านภาพแห่งอนาคต ที่มีศักยภาพอันโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นความแม่นยำของสี ความสว่าง และความคมชัดของภาพ พร้อมกับค่า 90 Hz refresh rate อัตราการแสดงภาพหรือกราฟฟิคในเกมที่คุณชื่นชอบ ให้ได้ภาพที่นุ่มนวลกว่า พร้อมการตอบสนองการสั่งการบนหน้าจอได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีสะดุด รวมถึงการใช้งานเว็ปไซต์ 

OnePlus 7

แอปพลิเคชันต่างๆ บนสมาร์ทโฟนของคุณ และยังมีฟีเจอร์ Night Mode 2.0 ที่ช่วยกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อสายตา ซึ่งผู้ใช้งานสามารถจัดการเพื่อตั้งค่าความสว่างได้ต่ำสุดถึง 0.27 nits ช่วยปกป้องดวงตาของคุณให้ดียิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าจะใช้งานสมาร์ทโฟนในที่มืดสมิท ก็ไม่ส่งผลอันตรายต่อสายตาของคุณ 

ซึ่งเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ได้ถูกรับการันตีจาก DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจอภาพแสดงผลชั้นนำของโลก ด้วยคะแนนผลทดสอบอยู่ที่ A+ ที่ทำให้หน้าจอ OnePlus 7 Pro ยกระดับค่ามาตรฐานของหน้าจอสมาร์ทโฟนเรือธงระดับพรีเมี่ยมได้ในครั้งนี้

ต่อกันที่ OnePlus 7 Pro ใช้ชิปเซ็ตขุมพลังอย่าง Qualcomm Snapdragon 855 ด้วยความเร็ว octa-core 2.84 GHz ซึ่งเป็น CPU ที่เร็วแรง และทรงประสิทธิภาพที่สุดในตอนนี้ ใช้หน่วยความจำภายใน UFS 3.0 ที่มั่นใจได้เลยว่าจะเร็วและลื่นเกินคำบรรยาย ที่มาพร้อมกับ RAM ที่สูงถึง 12 GB และ RAM Boost ระบบการจัดการข้อมูลภายใน ที่จะช่วยทำให้ทุกการเล่นเกมส์เร็วขึ้น และลื่นไหลกว่าเดิมการไม่ว่าจะเป็นการโหลดเกม หรือการใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ครอบทับด้วย OxygenOS ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานทั่วโลกว่ามีความเสถียรภาพที่สุด 

OnePlus 7 Pro

นอกจากนี้ OnePlus 7 Pro มีการพัฒนาระบบสั่น Haptic Vibration ให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์ร่วมที่เสมือนจริงในขณะการเล่นเกม พร้อมทั้ง 10-layer Liquid Cooling System ระบบระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น แม้ว่าคุณจะเล่นเกมที่จะทำให้สมาร์ทโฟนร้อนได้ ระบบนี้ก็จะยังคงประสิทธิภาพความเย็นให้คงที่ ไม่ทำให้สมาร์ทโฟนและมือของคุณร้อนหลังจากการใช้งานเป็นเวลานาน

OnePlus 7 Pro

และในครั้งนี้เองสำหรับกล้องของ OnePlus 7 Pro นับว่าพัฒนาไปอีกขั้นคือมาพร้อมกับกล้องหน้ารูปแบบใหม่ Pop-up Camera ที่มีความละเอียดชัดถึง 16 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหลัง 3 ตัวอย่าง Triple Camera โดยที่กล้องหลักเลนส์มีความละเอียดชัดถึง 48 พิกเซล ให้ทุกภาพถ่ายสวย มีความคมชัดสมจริงเหมือนตาเห็น ส่วนกล้องตัวที่สองเป็นแบบเลนส์ Ultra Wide Angle ที่มีองศาในการรับภาพกว้างถึง 117 องศา พร้อมความละเอียดชัดถึง 16 ล้านพิกเซล และด้านกล้องตัวที่สามจะเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียดชัด 5 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีการซูมภาพ (Optical Zoom) ได้ 3 เท่า โดยไม่เสียรายละเอียดในการซูมภาพแม้แต่น้อย

OnePlus 7 Pro

พร้อมด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือภายใต้หน้าจอที่เร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้งลำโพงคู่อย่าง Dual Stereo Speaker ให้เสียงรอบทิศทาง มาตรฐานเสียงระดับ Dolby® เพื่อความเต็มอรรถรสสำหรับผู้ใช้งาน ที่จะได้รับประสบการณ์เสียงที่น่าพึงพอใจที่สุดในครั้งนี้

และในการเปิดตัวในครั้งนี้ OnePlus 7 Series ก็มีได้ออกรุ่นต่างๆดังนี้ สำหรับ OnePlus 7  และ OnePlus 7 Pro  ได้เปิดตัวออกมา 3 รุ่นได้แก่

  • Ram 6 GB / Rom 128 GB
  • Ram 8 GB / Rom 128 GB
  • Ram 12 GB / Rom 256 GB

กับ 3 เฉดสีใหม่อย่าง Nebula Blue, Mirror Grey และ Almond เตรียมพร้อมให้คุณได้สัมผัสกันได้ในเร็วๆนี้

ข้อมูล :www.gsmarena.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
พร้อมแซงทุกสนามแข่ง! Infinix เปิดตัว GT 20 Pro 5G เกมมิ่งโฟนที่รองรับ 120 FPS
เตือน! ผู้ใช้ Authy ควรเพิ่มความระวังหลังเหตุแฮ็กเปิดเผยหมายเลขโทรศัพท์กว่า 33 ล้านเบอร์
ชมตัวอย่างแรกของ “The Shrink Next Door” ในลิมิเต็ดซีรีส์ต้นฉบับจาก Apple

Leave Your Reply

*