Apple ปิดท้ายเดือนมกราคมด้วยการอัปเดตครั้งสำคัญทั้ง iOS 18.3 พร้อมระบบ Apple Intelligence ที่แข็งแกร่งขึ้น และเปิดเผยวิธีอัปเดต AirPods อย่างเป็นทางการครั้งแรก
Oppo เดินหน้าพลิกโฉมวงการสมาร์ตโฟนพับได้อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Find N5 ที่อ้างว่าเป็นสมาร์ตโฟนพับได้ที่บางที่สุดในโลก โดยมีความหนาเพียง 4 มิลลิเมตรเมื่อกางออก ซึ่งบางกว่า iPhone 16 Pro Max ถึงครึ่งหนึ่ง
ความหวังใหม่ของผู้ใช้ iPhone ที่ต้องการสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้กำลังจะเป็นจริง เมื่อ Apple เตรียมเปิดตัว iPhone 17 Air รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมดีไซน์บางเฉียบเพียง 5.5 มิลลิเมตร พร้อมฟีเจอร์ระดับ Pro มากมาย ตามรายงานจาก นักวิเคราะห์ Ming-Chi Kuo ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ Apple ได้เปิดเผยว่า iPhone 17 Air จะมาพร้อมการปฏิวัติด้านการออกแบบครั้งใหญ่ โดยใช้วัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูงที่ช่วยให้ตัวเครื่องบางเฉียบและน้ำหนักเบา ถือเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา หน้าจอของ iPhone 17 Air มาพร้อมพาเนล OLED ขนาด 6.6 นิ้ว ใหญ่กว่า iPhone 14 Pro ถึง 0.5 นิ้ว และที่สำคัญคือการเพิ่มเทคโนโลยี ProMotion ที่รองรับอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz เป็นครั้งแรกในรุ่นที่ไม่ใช่ Pro ช่วยให้การเลื่อนหน้าจอและการรับชมวิดีโอลื่นไหลยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมขอบจอบางเฉียบและ Dynamic Island เช่นเดียวกับรุ่น Pro ด้านประสิทธิภาพ iPhone 17 Air ได้รับการอัพเกรดด้วยชิปประมวลผล A19 รุ่นล่าสุด RAM 8GB เพิ่มขึ้นจาก iPhone 14 Pro ที่มีเพียง 6GB พร้อมรองรับ Wi-Fi 6E หรือ Wi-Fi 7 และพอร์ต USB-C ที่รองรับการชาร์จเร็วและถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง ระบบกล้องถ่ายภาพของ iPhone 17 Air แม้จะมีกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซลเพียงตัวเดียว แต่มาพร้อมเทคโนโลยี Fusion camera ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการประมวลผลภาพ สามารถซูมระยะ 2 เท่าด้วยคุณภาพเทียบเท่าเลนส์ Telephoto ส่วนกล้องหน้าได้รับการอัพเกรดเป็น 24 ล้านพิกเซล เพิ่มความคมชัดในการถ่ายเซลฟี่และวิดีโอคอล ฟีเจอร์เด่นอีกอย่างคือ Apple Intelligence ระบบปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ช่วยเพิ่มความสามารถของ Siri ในการเข้าใจบริบทและควบคุมแอปพลิเคชันได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมฟีเจอร์การสรุปการแจ้งเตือน สร้างอิโมจิแบบกำหนดเอง และลบพื้นหลังภาพถ่ายอัตโนมัติ สำหรับระบบเชื่อมต่อ iPhone 17 Air จะรองรับเฉพาะ eSIM โดยไม่มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบกายภาพ ซึ่งผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาคุ้นเคยกับระบบนี้อยู่แล้ว แต่อาจเป็นความท้าทายสำหรับผู้ใช้ในประเทศอื่นๆ ที่ต้องปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่นี้…
ซัมซุง สร้างความฮือฮาในวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Galaxy S25 Edge สมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษที่บางที่สุดในตระกูล Galaxy S พร้อมวางจำหน่ายก่อนคู่แข่งในครึ่งแรกของปี 2025 นับเป็นการปฏิวัติการออกแบบสมาร์ทโฟนครั้งสำคัญของวงการ
วงการเทคโนโลยีสั่นสะเทือนอีกครั้ง หลังมีภาพหลุดล่าสุดของแผงด้านหลัง iPhone 17 series เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของดีไซน์กล้องหลัง จากแหล่งข่าววงในที่เชื่อถือได้
แอปเปิล (Apple) กำลังเตรียมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วย iPhone 17 Air รุ่นพิเศษที่จะมาแทนที่ iPhone 17 Plus โดยมีจุดเด่นที่ความบางเฉียบเพียง 5.5 มิลลิเมตร
แอปเปิล เตรียมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วย iPhone รุ่นที่บางที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา หลังมีรายงานจากสื่อเกาหลีใต้เผยรายละเอียดของ iPhone 17 Air ที่จะมาพร้อมความบางเพียง 6.25 มิลลิเมตร และราคาเริ่มต้นที่ใกล้เคียงกับ iPhone 16 Plus พร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยที่น่าจับตามอง
ผู้ใช้ iPhone รุ่นมาตรฐานในปีหน้าอาจได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลมากขึ้น เมื่อ Apple เตรียมนำเทคโนโลยี ProMotion มาใช้ในไอโฟนรุ่นพื้นฐานเป็นครั้งแรก ตามรายงานล่าสุดจากห่วงโซ่อุปทานที่น่าเชื่อถือ ผู้รั่วไหลข้อมูลชาวจีนที่มีชื่อเสียงบนแพลตฟอร์ม Weibo อย่าง Digital Chat Station เผยว่า ข้อมูลจากห่วงโซ่อุปทานยืนยันข่าวลือเกี่ยวกับหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชเรทสูงขึ้นใน iPhone 17 รุ่นมาตรฐาน แม้จะไม่ได้ระบุค่าเฮิรตซ์ (Hz) ที่แน่ชัด แต่ข่าวลือก่อนหน้านี้ชี้ว่า Apple วางแผนจะใช้อัตรารีเฟรชเรท 120Hz หรือเทคโนโลยี ProMotion ที่เคยจำกัดไว้เฉพาะในรุ่น Pro เท่านั้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ iPhone รุ่นมาตรฐานให้ใกล้เคียงกับรุ่น Pro มากยิ่งขึ้น ตามรายงาน Apple จะใช้จอแสดงผลแบบ LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) สำหรับ iPhone 17 ทุกรุ่น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถใช้งาน ProMotion ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีการจัดการพลังงานที่ดีกว่า โดยสามารถปรับอัตรารีเฟรชเรทได้ตั้งแต่ 1Hz ถึง 120Hz อัตโนมัติตามการใช้งาน ต่างจาก iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ปัจจุบันที่ใช้จอแสดงผลแบบ LTPS (Low-Temperature Polycrystalline Silicon) ซึ่งจำกัดอัตรารีเฟรชเรทสูงสุดที่ 60Hz เท่านั้น การใช้จอแสดงผล LTPO ใน iPhone 17 จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานฟีเจอร์ Always-on Display ได้ ซึ่งแสดงข้อมูลเวลา วิดเจ็ต และการแจ้งเตือนบนหน้าจอล็อคได้ตลอดเวลา โดยใช้พลังงานต่ำมาก เนื่องจากหน้าจอสามารถลดอัตรารีเฟรชเรทลงเหลือเพียง 1Hz ได้ นอกจากนี้ เมื่อใช้งานทั่วไป อัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 120Hz จะช่วยให้การเลื่อนหน้าจอและการรับชมวิดีโอมีความลื่นไหลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด Ross Young ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์จาก Display Supply Chain Consultants ระบุว่าทั้ง iPhone 17 รุ่นมาตรฐานและรุ่นที่บางลงที่เรียกว่า “iPhone 17 Air” จะมาพร้อมกับ ProMotion ทั้งคู่ การที่ iPhone ทั้ง 4 รุ่นในปี 2025 จะมีจอแสดงผลแบบ ProMotion นั้น หมายความว่าอัตรารีเฟรชเรทที่สูงขึ้นจะไม่ใช่คุณสมบัติที่แตกต่างของรุ่น…
Apple เตรียมสร้างความตื่นเต้นให้วงการเทคโนโลยีในปี 2025 ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการ
ปี 2025 นับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Apple ที่เตรียมปฏิวัติวงการเทคโนโลยีด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการ ทั้งสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษ อุปกรณ์สมาร์ทโฮม และการพัฒนาระบบ AI ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับกว่าที่เคย
